The Sims: ฉันเปิดเส้นทางอมตะให้กับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด - บทที่ 41

บทที่ 41: บทที่ 40: ผู้แข็งแกร่งก็มีหัวใจที่เต็มไปด้วยความเกรงขามเช่นกัน!

นักแปล : 549690339

เสือดาวหยูเหวิน ซึ่งเป็นพระภิกษุจากประตูเพชร กลับแสดงท่าทีเย็นชาเมื่อได้ยินคำพูดของเป้ยเสวียนจิง

ไม่ว่าเขาจะฟังอย่างไร เขาก็รู้สึกว่าคำพูดของอีกฝ่ายดูถูกเยาะเย้ย และเขาซึ่งเคยชินกับคำชมเชย พบว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ชายร่างใหญ่ที่นั่งข้างๆ เขากลับวางมือบนไหล่ของเขา ทำให้เขาไม่อยากจะเคลื่อนไหวอะไร

ชายร่างใหญ่เดินไปข้างหน้า กำหมัดแน่นและพูดว่า “ยินดีที่ได้รู้จักคุณ พี่เป้ย ฉันได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้ว อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าคุณชอบใช้คำพูดที่รุนแรงมากกว่า”

เป่ยเซวียนจิงเหลือบมองเสือดาวหยูเหวินที่ถูกกักขังไว้ เดิมทีเขาคิดว่าเสือดาวหยูเหวินเป็นผู้นำระหว่างทั้งสอง แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ใช่

“ฉันขอถามหน่อยว่าคุณเป็นใคร” เขาวัดขนาดของชายร่างใหญ่

เมื่อพิจารณาว่าเขาสามารถร่วมมือกับ Yuwen Leopard ได้และได้ริเริ่ม หากไม่เป็นที่คาดไม่ถึง เขาก็มีแนวโน้มที่จะเป็นหนึ่งในบุคคลในรายชื่อที่ Gu Ji ให้มา

เมื่อเขาสังเกตเห็นมือของชายคนนั้น เขาก็เข้าใจทันทีว่าชายร่างใหญ่ผู้นี้เป็นใคร

ขณะเดียวกัน ชายร่างใหญ่ก็ประกาศชื่อของเขาว่า “ฉันคือ Tie Mad”

มันคือ มม.!

Tie Mad ลูกศิษย์ส่วนตัวของ Tie Qianshan ผู้โด่งดังที่สุดในรุ่นเยาว์ของนิกาย Tie แห่ง Northwest Dao นั่นคือ Tie Mad

ทุกวันนี้แทบไม่มีใครรู้จักชื่อเดิมของเขาแล้ว และทุกคนต่างเรียกเขาว่า Tie Mad

ความจริงที่ว่าเขาถูกเรียกว่าบ้าบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของเขา

ตำนานเล่าขานว่าชื่อของเขาได้รับแรงบันดาลใจจากนักศิลปะการต่อสู้ผู้ไม่ยอมแพ้ต่อใครซึ่งรู้จักกันในนาม ‘ผู้แปลกประหลาดคนแรกในแวดวงศิลปะการต่อสู้’ เมื่อหนึ่งพันปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาเป็นศิษย์ส่วนตัวของ Tie Qianshan เขาจึงเป็นคนหยิ่งยะโสและสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองใน Northwest Dao ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเก่งกาจแค่ไหน

ตอนนี้เขาอายุ 25 ปีแล้ว และได้เลื่อนขั้นเป็นระดับที่ 5 ในศิลปะการต่อสู้แล้ว Bai Xiaosheng นักศิลปะการต่อสู้ร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเคยแสดงความคิดเห็นว่า ตราบใดที่เขาไม่ตายตั้งแต่ยังเด็ก เขาก็มีโอกาสสูงที่จะเลื่อนขั้นเป็นระดับที่ 3

“พี่เทีย ชื่อเสียงของคุณนำหน้าคุณไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าการประชุมวันนี้จะเกินจริงไปนิดหน่อย!” เป่ยซวนจิงยังคงเฉยเมย แต่คำพูดของเขาค่อนข้างตรงไปตรงมา

Tie Mad มาตามคำเชิญของ Yuwen Leopard ชัดเจนว่าเขาตั้งใจจะทำร้ายและดูเหมือนจะหาเรื่องเขา

นอกจากนี้ เขาไม่เคยลืมว่าเขาได้ฆ่าพ่อของศิษย์อัจฉริยะจากสำนักเทีย ทั้งสองฝ่ายอยู่ในสภาวะที่เป็นศัตรูกันและไม่น่าจะเป็นเพื่อนกันได้

เมื่อเขามาถึงจังหวัดอันผิง เขายังสอบถามเกี่ยวกับอัจฉริยะที่เข้าร่วมนิกายเทียจากตระกูลจางด้วย เขาได้ยินมาว่าพรสวรรค์ของชายคนนี้ดีมาก แม้แต่เทียเฉียนซานยังตั้งใจที่จะรับเขาเป็นศิษย์

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบกับ Tie Sect อีกครั้ง

“เป่ยเสวียนจิง คุณเย่อหยิ่งเกินไปแล้ว!” ใบหน้าของเทียแมดเริ่มมืดมนลง

เขาไม่ได้คาดหวังว่าผู้ชายคนนี้จะมีคำพูดที่ร้ายกาจถึงขนาดนี้ และไม่แสดงความสุภาพอ่อนน้อมเหมือนชายหนุ่มที่เพิ่งเริ่มต้นอาชีพของเขา

เด็กๆ สมัยนี้มันเกเรกันทุกคนเลยเหรอ?

เมื่อมองไปที่เป้ยเสวียนจิง เทีย มาดก็คิดถึง ‘น้องชายคนเล็ก’ ของเขาที่เจ้านายของเขาตั้งใจจะรับมาอยู่ภายใต้การดูแลของเขาเมื่อเร็วๆ นี้

ชายคนนั้นก็มีความสามารถสูงเช่นกัน แต่เขาก็พูดจาหยาบคายไม่แพ้กัน ไม่ค่อยเคารพรุ่นพี่เพราะเจ้านายชอบเขา ถ้าเจ้านายไม่เข้ามาขัดขวาง เขาคงได้สอนบทเรียนดีๆ ให้กับพี่ชายของเขาไปแล้ว

ถ้าจะพูดตามความจริง Tie Mad ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างน้องชายอัจฉริยะคนนั้นกับ Pei Xuanjing พ่อของน้องชายอัจฉริยะคนนั้น Zhang Zhiyi ถูก Pei Xuanjing ฆ่าตายเอง

“อิอิ”

เป้ยเสวียนจิงหัวเราะเบาๆ โดยไม่พูดอะไร

คราวนี้เป็นเสือดาว Yuwen จาก Diamond Gate ที่สงบลงแล้ว เขาจ้องไปที่ Tie Mad “พี่ Tie เขาแค่พยายามยัวยุให้คุณเคลื่อนไหว”

เขาเห็นว่า Pei Xuanjing กำลังทำสิ่งนี้โดยตั้งใจเพื่อพยายามยั่วยุให้พวกเขาเคลื่อนไหว แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไม แต่ Yuwen Leopard ก็รู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าเขาควรทำสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ Pei Xuanjing ต้องการทำ

เมื่อเห็นว่าทั้งสองสงบลงแล้ว เป้ยซวนจิงก็ส่ายหัวด้วยความผิดหวังเล็กน้อย

ใช่ เขาแค่พยายามยั่วยุให้ทั้งสองเคลื่อนไหว จากนั้นก็ใช้สถานการณ์เป็นประโยชน์เพื่อฆ่าพวกเขา หรืออย่างน้อยก็ทำให้พวกเขาพิการ

ตามที่หลี่หยูเจิ้นกล่าวไว้ว่า ‘สิ่งมหัศจรรย์มีพิษ’ เหตุผลที่พวกเขาเข้ามาที่นี่ไม่ใช่เพื่อจับสิ่งมหัศจรรย์นั้น เขายังไม่รู้จักเสือดาวหยูเหวิน แต่เนื่องจากเทียแมดเป็นคนหยิ่งยโสมาก เขาจึงอาจไม่มาที่นี่เพื่อจับสิ่งมหัศจรรย์นั้น

ในกรณีนั้น มีแนวโน้มสูงมากที่ทั้งสองคนจะมาที่นี่เพื่อป้องกันไม่ให้เขาคว้าสิ่งมหัศจรรย์นั้นไป

แม้ว่า Pei Xuanjing ผู้ครอบครองพลังของนักศิลปะการต่อสู้ระดับสี่และถืออาวุธศักดิ์สิทธิ์พันบริสุทธิ์ – ดาบเปลวเพลิงไหล แค่คิดถึงนักศิลปะการต่อสู้ระดับห้าที่ค่อนข้างแข็งแกร่งสองคนก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะคว้าสิ่งที่น่าอัศจรรย์ แต่กลับมุ่งความสนใจไปที่การสร้างปัญหาให้เขาแทน

มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนตะปู มีหนามอยู่ในข้างตัว และมีก้างปลาติดอยู่ที่คอ

ดังนั้นเขาจึงต้องการใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ก่อนที่สิ่งมหัศจรรย์จะเกิดขึ้น และกำจัดสิ่งรบกวนทั้งสองนี้ออกไป เพราะในเวลานี้ ใครก็ตามที่ปรารถนาสิ่งมหัศจรรย์นั้นจะไม่โง่เขลาพอที่จะมายั่วยุเขา

แต่น่าเสียดายที่ทั้งสองดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงบางอย่าง พวกเขาไม่ได้ถูกเขายั่วยุ และเก็บความโกรธเอาไว้

เป้ยซวนจิงชี้ไปที่ทั้งสองคนอย่างโจ่งแจ้งและพูดกับกู่ซานที่อยู่ข้างๆ เขาว่า “เมื่อเราเคลื่อนไหวกันในภายหลัง พวกคุณทั้งสองคนต้องระวังนะ”

จุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทีมนี้มีเพียงแค่ระดับที่ 6 เท่านั้น และพวกเขาไม่สามารถเทียบเคียงกับทั้งสองคนนี้ได้

ไม่ใช่ว่าเป้ยเสวียนจิงคิดว่าตัวเองเป็นนักบุญ แต่เขารู้สึกว่าการฝึกฝนไม่ใช่เรื่องง่าย และผู้คนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตที่นี่

บางทีเขาอาจจะเห็นใจพวกเขา!

เป้ยเสวียนจิงรู้ว่าหากเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเครื่องจำลองชีวิต เขาก็อาจจะเหมือนกับนักศิลปะการต่อสู้ธรรมดาๆ คนอื่นๆ รอบตัวเขา และแน่นอนว่าเขาคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงกลางด้วยเสน่ห์เย้ายวนใจเช่นนี้

“ใช่” กู่ซานพยักหน้า

เขาตระหนักถึงช่องว่างระหว่างเขากับอัจฉริยะเหล่านี้ แม้ว่าพวกเขาจะก้าวขึ้นสู่ระดับที่ 6 ได้ก่อนอายุ 25 ปี แต่ก็ไม่ได้ไร้ซึ่งทรัพยากรมากมายที่อาจารย์ใหญ่แห่งจังหวัดเทให้พวกเขา

“คุณแค่ต้องดูแลตัวเอง ปล่อยให้ฉันจัดการส่วนที่เหลือเอง” เมื่อเห็นว่า Gu San ไม่ได้พุ่งไปข้างหน้าอย่างหุนหันพลันแล่น Pei Xuanjing ก็พยักหน้าเห็นด้วย

อันที่จริง ถ้าไม่ใช่เพราะคำขอของ Gu Ji เป่ยซวนจิงอาจต้องการมาที่นี่เพียงลำพังก็ได้ เขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคนเหล่านี้เลย

มันไม่ใช่ความเย่อหยิ่ง แต่เป็นความมั่นใจ

ด้วยพละกำลังของเขา หากเขาสามารถคว้าสิ่งมหัศจรรย์นั้นมาได้ เขาก็จะทำอย่างแน่นอน หากมีศัตรูที่เขาไม่สามารถรับมือได้ คนเหล่านี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนักเช่นกัน

“แม้ว่าคุณจะเป็นคนแข็งแกร่งคุณก็ต้องมีความเคารพ”

Gu Ji กล่าวสิ่งนี้ไว้

ในความเห็นของ Gu Ji คนเหล่านี้ได้รับการปลูกฝังโดยเขาโดยใช้ทรัพยากรมากมาย แม้ว่าพวกเขาจะแตกต่างจากอัจฉริยะอย่าง Pei Xuanjing แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธโอกาสที่พวกเขาจะได้ต่อสู้ต่อไปได้ ท้ายที่สุดแล้ว การเข้าไปในสถานที่ต้องห้าม ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นทั้งความเสี่ยงและโอกาส

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เป้ยเสวียนจิงก็เงียบไป

เขาเข้าใจถึงความยากลำบากของนักศิลปะการต่อสู้ชนชั้นล่าง ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธข้อเสนอนี้ไม่ได้

ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไม่สามารถขัดขวางความมุ่งมั่นและโอกาสของใครในการก้าวไปข้างหน้าได้

ดวงจันทร์อยู่สูงบนท้องฟ้า แสงสีเงินส่องลงมาจากท้องฟ้า คล้ายกับมีผ้าคลุมสีเงินคลุมอยู่บนพื้นผิวทะเลสาบ

ผิวน้ำที่สงบเริ่มมีคลื่นค่อย ๆ เกิดขึ้น

“สิ่งมหัศจรรย์กำลังจะปรากฏ!”