ยุคสมัยแห่งเทพเจ้า - บทที่ 177

บทที่ 177: บทที่ 177 สรุปค่ายฤดูร้อนที่สนุกสนาน

ผู้แปล: 549690339

เมื่อพิจารณาว่าหลังจากค่ายฤดูร้อนจะต้องมีการนอนราบและทำฟาร์มเป็นระยะเวลานานเพื่อย่อยผลกำไรจากค่ายฤดูร้อนนี้ แน่นอนว่าเขาจะมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนก็อบลินผู้ปรีชาญาณ จะต้องมีความต้องการเหล็กจำนวนมากอย่างแน่นอนเพื่อให้สามารถหลอมเหล็กแล้วจึงสร้างอาวุธต่างๆ เพื่อฝึกฝนได้ การจัดซื้อมันเป็นพิเศษคงจะลำบากและไม่คุ้มค่า ดังนั้นเหมืองเหล็กขนาดใหญ่จึงเป็นสิ่งจำเป็น

ในความเป็นจริง เหมืองเหล็กขนาดใหญ่นั้นไม่เพียงพอ ครั้งนี้ เมื่อได้รับมรดกสุสานเทพของพลตรีเครี ชิ้นส่วนของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ภายในอาจใหญ่กว่าที่เขาจินตนาการไว้ มันเป็นชิ้นส่วนของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลัง และเขายังไม่ทราบพื้นที่เฉพาะ แต่เขามั่นใจว่ามันมีขนาดใหญ่กว่าสิบเท่าของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ในปัจจุบันของเขา

เมื่ออาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ได้รับการพัฒนา ความต้องการทรัพยากรจะสูงมาก

แน่นอนว่าไม่มีใครมีอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์อันกว้างใหญ่ที่ซึ่งคนส่วนใหญ่เป็นเพียงถิ่นทุรกันดารที่ว่างเปล่า ดังนั้นสำหรับรางวัลนี้ เขาส่วนใหญ่จะเลือกการ์ดทรัพยากรต่างๆ

อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์และสมบูรณ์จะต้องไม่มีข้อบกพร่องใดๆ โดยเฉพาะกับคนอย่างหลินเซียวที่มีความลับมากมาย และไม่เหมาะกับกิจกรรมของทีมในช่วงแรกๆ อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ต้องพึ่งตนเองด้วยกฎเกณฑ์ที่สมบูรณ์แบบ

เราต้องเข้าใจว่าในช่วงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีการสอบมากมายในต่างแดน หากใครคนหนึ่งบังเอิญติดอยู่ในความว่างเปล่านอกอาณาจักรเป็นเวลานานโดยไม่มีเสบียง อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ที่อุดมด้วยทรัพยากรพร้อมกฎเกณฑ์ที่สมบูรณ์แบบและไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ ที่สามารถช่วยให้เขาอดทนได้นานขึ้น

นักเรียนที่มีส่วนร่วมในการทำสงครามโดยประมาทและพึ่งพาสมาชิกในทีมในด้านการขนส่งอาจมีกำลังมาก แต่หากพวกเขาแยกจากเพื่อนร่วมทีมโดยไม่คาดคิด ผลที่ตามมาก็จะค่อนข้างรุนแรง

สำหรับการ์ดคุณภาพโบราณใบที่สาม หลินเซียวสแกนการ์ดโบราณหลายสิบใบที่เขาทำเครื่องหมายไว้ว่าเป็นผู้เข้าชิง ตามลำดับโดยไม่รวมการ์ดที่มีลำดับความสำคัญต่ำกว่า ในท้ายที่สุด การ์ดสองใบถูกจัดลำดับความสำคัญสูงสุดสำหรับการเลือก: ใบหนึ่งที่สามารถเรียกเทือกเขาเล็กๆ ที่เรียกว่า “เทือกเขา” และการ์ดชีวภาพทางบกที่ครอบคลุมหนึ่งใบ

การ์ดโบราณเทือกเขาประกอบด้วยเทือกเขาขนาดเล็กที่มียอดเขาสูง 1 ยอดและยอดเขาสั้น 5 ยอด รวมเป็น 6 ยอด ยอดเขาที่สูงที่สุดคือประมาณหนึ่งพันเมตร ยอดเขาที่สูงกว่าคือหกถึงเจ็ดร้อยเมตร และยอดเขาที่สั้นกว่านั้นประมาณสองร้อยเมตร ทอดยาวกว่ายี่สิบถึงสามสิบกิโลเมตร

เหตุผลในการเลือกการ์ดใบนี้นั้นเรียบง่าย: นอกเหนือจากการเพิ่มคุณค่าให้กับภูมิประเทศของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์แล้ว มันคือการเตรียมทรัพยากรจำนวนมากที่ต้องใช้ภูเขาเป็นหลัก

ตัวอย่างเช่น แร่ธาตุต่างๆ เช่น แร่เหล็ก ส่วนใหญ่จะซ่อนอยู่ใต้ภูเขา

แน่นอนว่าการฝังพวกมันไว้ใต้ดินโดยตรงก็ใช้ได้ แต่มันไม่เอื้อต่อการขุด ดินใต้พื้นโลกไม่แข็งพอที่จะรองรับปล่องเหมือง เหมืองที่ขุดใหม่มีความเสี่ยงที่น้ำจะซึมและพังทลายภายในไม่กี่นาที แม้แต่เหมืองแบบเปิดก็ยังต้องถูกขุดลงไป

ในเวลาเดียวกัน การมีภูเขาหมายถึงการมีหิน ซึ่งจำเป็นในปริมาณมากสำหรับการสร้างเมืองขึ้นใหม่เมื่ออาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ขยายตัวในอนาคต

ส่วนบัตรชีวภาพแบบครอบคลุมที่ดินเป็นบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่บรรจุสัตว์ป่านานาชนิดหลายขนาด สัตว์แต่ละสายพันธุ์มีจำนวนเพียงพอสำหรับการสืบพันธุ์ที่มั่นคง และการบรรทุกพวกมันทั้งหมดจะสร้างห่วงโซ่ทางชีววิทยาที่สมบูรณ์บนบก

การ์ดชีวภาพยังสามารถให้เนื้อมากมายแก่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ สัตว์ป่าที่ทรงพลังบางตัวอยู่ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ที่อุดมด้วยพลังงานมาเป็นเวลานานอาจพัฒนาเป็นสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งกว่าหลายตัว และกลายเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควรสำหรับญาติของอาณาจักรพระเจ้าที่จะฝึกฝนทักษะของพวกมัน

ไพ่สองใบนี้ไม่ได้มีค่าที่สุดในบรรดาการ์ดโบราณ แต่เป็นหนึ่งในการ์ดโบราณที่เหมาะสมที่สุดสำหรับหลินเซียวในขณะนี้

เขาเรียกดูไปมาระหว่างไพ่ทั้งสองใบหลายครั้งและในที่สุดก็เลือกการ์ดเทือกเขา

ท้ายที่สุดแล้ว ก่อนหน้านี้เขาได้เลือกเส้นเลือดแร่เหล็กขนาดใหญ่ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับการ์ดใบนี้

สำหรับระบบนิเวศและแพ็คเกจทางชีวภาพ เขาตัดสินใจแลกเปลี่ยนกับคนอื่นๆ ในภายหลังโดยใช้การ์ดที่สุ่มขึ้นมาซึ่งเขาไม่ต้องการ

ด้วยเหตุนี้ การเลือกการ์ดโบราณทั้งสามใบจึงเสร็จสมบูรณ์: หยดเลือดแก่นแท้ของมังกรแดงระบบไฟ หลอดเลือดดำแร่เหล็กขนาดใหญ่ และการ์ดเทือกเขาขนาดเล็กหนึ่งใบ

ถัดไปคือการเลือกการ์ดห้าดาวระดับตำนานสีทองสิบห้าใบ ซึ่งรวดเร็วเนื่องจากเป็นการสุ่ม

ต่างจากการ์ดโบราณที่เลือก รางวัลสำหรับการ์ดระดับตำนานระดับห้าดาวนั้นเป็นแบบสุ่มทั้งหมด

โดยไม่จำเป็นต้องไตร่ตรอง เขากดปุ่มสุ่มบนหน้าจอตรงหน้าเขา ทีละใบ การ์ดที่เปล่งแสงสีทองที่มีความเข้มต่างกันออกมาจากกระแสน้ำวนสีทองและตกลงมาในมือของเขา

ความสมบูรณ์ของแสงสีทองแสดงให้เห็นว่าแม้ในหมู่การ์ดคุณภาพระดับตำนาน บางส่วนก็ยังดีกว่าการ์ดอื่นๆ โดยมีจุดแข็งที่แตกต่างกันไปในระดับเดียวกัน

ใช้เวลาไม่นานกว่าไพ่สิบห้าใบที่มีความเข้มของแสงสีทองต่างกันจึงจะปรากฏในมือของเขา ด้วยการสะบัดนิ้วของเขา เช่นเดียวกับการคลี่สำรับไพ่ ชื่อของไพ่ทั้งสิบห้าใบก็มองเห็นได้ทันที

ตรวจสอบอย่างรวดเร็ว และหลินเซียวก็เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ในหมู่พวกเขาเขาพบการ์ดศักดิ์สิทธิ์

โดยปกติ การ์ดศักดิ์สิทธิ์จะไม่มีให้เลือกในกลุ่มการ์ดที่ตั้งไว้ล่วงหน้า ไม่มีการ์ด Divinity และการ์ด Divine Realm ในช่วงสองด่านก่อนหน้าของค่ายฤดูร้อน แต่ตอนนี้ ด้วยการสุ่มเลือก การ์ดห้าดาวคุณภาพระดับตำนานสองประเภทที่มีค่าที่สุดได้ถูกเพิ่มเข้าในกลุ่มการ์ดเพื่อให้ทุกคนได้จับฉลาก

สิ่งนี้เป็นของดีที่มีประโยชน์อย่างมาก แม้ว่าหลินเซียวจะได้รับความศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากจากรูปปั้นกึ่งเทพจำนวนมากภายในสุสานของพระเจ้าที่เขาได้รับสืบทอดมาจากพลตรีเครี่ แต่ไม่มีใครสามารถมีสิ่งเหล่านี้มากเกินไป และอาจจะไม่มากเกินไป

เมื่อลองคิดดู ค่ายฤดูร้อนครั้งนี้ได้รับชัยชนะครั้งใหญ่อย่างแท้จริง มูลค่ารวมของรายได้ของเขาน่าจะสูงกว่าผลรวมของสิบอันดับแรกรวมกัน

เมื่อเขาเข้าใจโชคลาภนี้แล้ว ความแข็งแกร่งของเขาก็พร้อมที่จะก้าวกระโดดไปข้างหน้าอย่างมาก เขาอาจจะยังไม่ทัดเทียมกับตัวประหลาดอย่างหวู่จงหลิน แต่เขาจะเหนือกว่าชนชั้นสูงระดับต่อไปอย่างจางกวน ฉินเฟิงเอี้ยน และหวังซินเหออย่างแน่นอน

บางที อาจเป็นไปได้ด้วยซ้ำสำหรับเขาที่จะอยู่ในรายชื่อรองของพรสวรรค์สามพันอันดับแรก

ความคิดเพียงอย่างเดียวทำให้หลินเซียวตื่นเต้นเล็กน้อย

การอยู่ในรายชื่อและไม่อยู่ในรายชื่อ ช่องว่างนั้นใหญ่มาก มันไม่ใช่แค่เรื่องของเกียรติเท่านั้น แต่ผลประโยชน์ที่จับต้องได้ที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของเขา

ยกตัวอย่างง่ายๆ: มันเหมือนกับก่อนที่เขาจะอพยพไปสู่ยุคโบราณบนโลก ไม่ว่าจะไปเรียนที่วิทยาลัยหรือไม่ก็ตาม การรักษางานหลังสำเร็จการศึกษาแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง คนธรรมดาสามารถสมัครงานได้เฉพาะงานธรรมดาเท่านั้น ผู้สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัยสามารถสมัครตำแหน่งปกขาวได้ ในขณะที่ผู้ที่อยู่ในรายชื่อรองจะได้รับการยกย่องจากผู้จ้างงานว่าเทียบเท่ากับผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยซิงหัว มหาวิทยาลัยปักกิ่ง และสามารถ…

สมมติว่าพวกเขาสนใจบริษัทของคุณตั้งแต่แรก

ผู้สำเร็จการศึกษาส่วนใหญ่จากมหาวิทยาลัย Tsinghua และมหาวิทยาลัยปักกิ่งจะเข้าสู่ตำแหน่งด้านการบริหารและอาชีพหลังจากสำเร็จการศึกษา มีเพียงคนที่มีฐานะไม่ดีเท่านั้นที่จะเข้าร่วมบริษัท—และถึงอย่างนั้น ก็ต้องเป็นองค์กรขนาดใหญ่ใน 500 อันดับแรกของโลก ถ้าน้อยกว่านี้ ผู้คนจะไม่พิจารณาคุณด้วยซ้ำ

ด้วยการเปรียบเทียบนี้ หากหลินเซียวติดอันดับหนึ่งในสามรายการ ได้แก่ อัจฉริยะ พรสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบได้ หรืออัจฉริยะพิเศษหลังจากการลงทะเบียน การปฏิบัติต่อของเขาจะอยู่ในระดับที่แตกต่างเมื่อเทียบกับนักเรียนคนอื่น ๆ และโรงเรียนก็จะพยายามอย่างเต็มที่ในการเลี้ยงดู เขา.

ประวัติศาสตร์หลายทศวรรษได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ตราบใดที่ผู้เข้าแข่งขันที่มีรายชื่อเหล่านี้ไม่ประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดกลางคัน พวกเขาเกือบจะรับประกันได้ว่าจะบรรลุการครองราชสมบัติอันศักดิ์สิทธิ์ การลงทุนใด ๆ ในพวกเขาจะต้องได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน

ดังนั้น….

“ทำงานหนักนะพ่อหนุ่ม!”

หลินเซียวให้กำลังใจตัวเองอย่างเงียบๆ โดยจ้องมองไปที่การ์ดรูปพัดที่อยู่ตรงหน้าเขา เขาเลือกครึ่งหนึ่งที่เหมาะกับเขา เหลืออีกครึ่งหนึ่งที่ไม่มีประโยชน์สำหรับเขา และวางแผนที่จะแลกการ์ดเหล่านั้นในภายหลังเป็นการ์ดที่ตรงกับความต้องการของเขา

เมื่อรวบรวมรางวัลของเขาแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นเพื่อดูว่าคนส่วนใหญ่ทำเสร็จแล้ว และหลายคนก็พร้อมแล้วและมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่พวกเขารู้จัก

Lin Xu กำลังพูดคุยกับนักเรียนจาก Silver Seat ใกล้ ๆ เมื่อเห็นหลินเซียวได้รับรางวัล เขาก็ขอตัวจากการสนทนาและมุ่งหน้าไป

Shen Yuexin สะสมรางวัลของเธอเสร็จแล้วเช่นกัน พวกเขาทั้งสามรวมตัวกัน และดวงตาของ Lin Xu เต็มไปด้วยความอิจฉาจับจ้องไปที่รอยรัศมีของทั้งสองคน:

“เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดสำหรับคุณทั้งคู่ที่จะได้รับการคัดเลือกเป็นพิเศษจาก Radiance ซึ่งอยู่นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน”

“มันก็แค่โชค!”

หลินเซียวตอบด้วยรอยยิ้ม แต่จิตใจของเขากลับนึกถึงคำพูดของชายชุดขาว—เจ้าหนูโชคดี!

จริงๆ แล้วเขายังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ชายในชุดขาวคนนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นผู้สังเกตการณ์จาก Radiance ทำไมเขาถึงบอกว่าหลินเซียวโชคดี? เป็นไปได้ไหมที่ Lin Xiao ไม่ได้รับการพิจารณาในตอนแรก?

เขาไตร่ตรองจากทุกมุมแต่ไม่เข้าใจ มันแปลกเกินไป

ไม่ว่าอย่างไร การได้รับคัดเลือกเป็นพิเศษจาก Radiance ก็เป็นสิ่งที่แน่นอนแล้วในตอนนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม โอกาสนั้นเป็นของเขา และเขาจะคว้ามันไว้ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ตัวเลือกอันดับต้นๆ ก็ตาม

“อะแฮ่ม!”

หลินเซียวไอเล็กน้อย รู้สึกเขินอายเล็กน้อยกับความคิดที่บ้าคลั่งของเขา

จุดสูงสุดนั้นเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน โควต้าการรับสมัครพิเศษของเขาอาจเนื่องมาจากเหตุผลพิเศษอื่น ๆ ที่ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่การให้ตำแหน่งสูงสุดแก่เขา และเขาจะไม่สามารถรับมือกับมันได้ หลินเซียวเดาว่าเขาอาจจะไม่อยู่ในสามอันดับแรกด้วยซ้ำ เมื่อพิจารณาว่า Radiance เป็นสถาบันระดับสุดยอดอันดับหนึ่งในโลกหลักที่มีช่องรับสมัครพิเศษประมาณ 10 ช่อง อันดับของเขาจะอยู่หลังอันดับสาม

เมื่อพิจารณาจากคำพูดของเขาแล้ว หลิน ซูคิดว่าเขาถ่อมตัวและพูดด้วยรอยยิ้ม:

“ความแข็งแกร่งของคุณเองไม่ได้แย่ และคุณได้รับมรดกสืบทอดที่มีศักยภาพพิเศษ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ Radiance จะคัดเลือกคุณมาเป็นพิเศษ”

เขาหยุดแล้วพูดต่อว่า

“คุณได้รับคัดเลือกเป็นพิเศษจาก Radiance และฉันโดย Dark Moon ตระกูลหลินรุ่นนี้มีความโดดเด่น หลังจากที่เราสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัย การนำกลุ่มจะพาเราไปสู่จุดสูงสุดอย่างแน่นอน” อืม….

ความคิดที่ไร้เดียงสาเช่นนี้ Lin Xiao มองสมาชิกญาติของเขาอย่างจริงจัง แม้ว่าจะหยิ่งเล็กน้อย แต่ตัวละครและค่านิยมของเขาค่อนข้างดี

จากนั้นเขาก็นึกถึงวิธีที่ Lin Xu ดูแลเขาในช่วงค่ายฤดูร้อน และทันใดนั้นก็มีความคิดขึ้นมา โดยพูดว่า:

“รอฉันสักครู่”

ด้วยเหตุนี้ ร่างของเขาก็หายไปทันที และกลับสู่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์

ภายในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ หลินเซียวค่อยๆลืมตาขึ้น หันหน้าไปทางลูกกลมเรืองแสงขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ตรงหน้าเขา นี่คือสุสานของพระเจ้า พล.ต. Keri ได้บรรจุสุสานของพระเจ้าทั้งหมดลงในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของ Lin Xiao โดยมีทุกสิ่งอยู่ข้างใน

เขาเอื้อมมือเข้าไปในลูกแก้ว และเมื่อเขาดึงมือกลับ เขาก็ถือรูปปั้นขนาดฝ่ามือสองใบและการ์ดโบราณที่ส่องแสงสองใบ

รูปปั้นเหล่านี้เป็นรูปปั้นครึ่งเทพสองรูปจากลานกว้างของสุสานของพระเจ้า ซึ่งกลายเป็นรูปปั้นโดยนักผจญภัยหรือเทพเจ้ากึ่งเทพที่เข้ามาโดยบังเอิญในช่วงที่ Keri เปิดสุสานของพระเจ้าทุกๆ หมื่นปี โดยทั้งหมดถูกผนึกไว้ภายใน เขาหยิบรูปปั้นกึ่งเทพสองตัวและฉีกชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ออกเพื่อสร้างการ์ดอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์คุณภาพโบราณสองใบ

เมื่อกลับมาจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ Lin Xu และ Shen Yuexin หันความสนใจไปที่สิ่งที่เขาถืออยู่ในมือทันที เขามอบการ์ดประกายและรูปปั้นให้กับพวกเขาแต่ละคน:

“เราเป็นเพื่อนร่วมทีม และเราผจญภัยเข้าไปในสุสานของพระเจ้าด้วยกัน ถูกต้องเท่านั้นที่คุณจะได้รับส่วนแบ่งจากสิ่งที่อยู่ข้างใน”

ผู้เข้าแข่งขันระดับทองที่อยู่รอบๆ พวกเขาพูดคุยกันสังเกตเห็นท่าทางนี้และทันที การแสดงออกถึงความอิจฉา ทัศนคติของพวกเขาต่อหลินเซียวเปลี่ยนไปอย่างมาก

ไม่มีใครไม่ชอบคนที่ยินดีแบ่งปันผลกำไรให้กับเพื่อนฝูง..