ยุคสมัยแห่งเทพเจ้า - บทที่ 151

บทที่ 151 การอวตารของแวมไพร์กึ่งเทพลงมา

ผู้แปล: 549690339

หลังจากที่อัศวินวาฬระดับเหนือธรรมชาติทั้งสิบสองคนปรากฏตัวขึ้น กลุ่มที่สองก็มีพญานาคชั้นยอดประมาณสามร้อยตัว

ตามที่หลินเซียววางแผนไว้ ถ้าเขาอัญเชิญกลุ่มของเขาในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เขาต้องการให้กลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีอำนาจกลุ่มนี้บุกเปิดสถานการณ์และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยก่อน เมื่อนั้นเขาจะเรียกอาหารสัตว์ปืนใหญ่ของ Small Fishmen ออกมาอย่างหนาแน่น

ชาวประมงตัวเล็กจำนวนไม่สิ้นสุดถูกเรียกออกมาและกระจายไปรอบๆ พอร์ทัล เมื่อกลุ่มนักเวทย์ฟิชแมนถูกอัญเชิญ พวกเขาก็กระโดดลงไปในแม่น้ำและเริ่มอัญเชิญธาตุน้ำ

ธาตุน้ำยังคงเหมือนเดิม แต่ตอนนี้มีนักเวทย์ฟิชแมนมากขึ้นกว่าเดิม

ในระหว่างการท้าทายค่ายฤดูร้อน เมื่อเรียกกระแสน้ำทำให้กองทัพทั้งสามของ Li Shengyuan จมน้ำ Slarda ได้เห็นพลังของนักเวทย์เยาะเย้ย Fishmen ในการต่อสู้ ต่อมา เมื่อ Fishmen เข้าสู่เวทีโบราณเพื่อเลื่อนตำแหน่ง เขาได้สั่งให้ Fishmen กลายเป็น Magician หากพวกเขาสามารถปลุกสายเลือดของพวกเขาและได้รับการเลื่อนขั้น โดยพยายามเพิ่มจำนวน Magician ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ณ ตอนนี้ มีนักเวทย์ฟิชแมนมากกว่าสองพันคน โดยจำนวนฟิชแมนทั้งหมดเกินหนึ่งหมื่นหกพันถึงหนึ่งหมื่นเจ็ดพันคน

จำนวนก็อบลินปรีชาญาณไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก Wise Goblins ใหม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยตัวได้รับการอบรม หลังจากที่ได้มาจากก็อบลินธรรมดาจนกลายเป็นก็อบลินปรีชาญาณที่อุดมไปด้วยศักยภาพ ความสามารถในการสืบพันธุ์ของพวกมันก็ลดลงเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ยังต่ำกว่าของฟิชแมนด้วยซ้ำ แต่แข็งแกร่งกว่าพญานาคสูงสุด ปัจจุบันมีพญานาคชั้นยอดประมาณหนึ่งพันสามร้อยตัวในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งผู้ใหญ่ เด็ก และแม้แต่ทารกแรกเกิด ซึ่งมากกว่าเมื่อก่อนมาก

นี่เป็นผลมาจากการที่ Lin Xiao เมื่อใดก็ตามที่เขามีเวลา เขาต้องใช้ความสามารถเหนือธรรมชาติในการสืบพันธุ์อย่างน่าเบื่อหน่ายเพื่อบังคับให้นางพญานาคผู้เป็นแม่ตั้งท้อง ควบคู่กับพญานาคชั้นยอด¹ อายุยืนยาวและไม่มีความตายตามธรรมชาติตั้งแต่แรกเกิด การสะสมในปัจจุบันนี้บรรลุผลสำเร็จ

จุดเริ่มต้นนั้นยากที่สุดเสมอ อัตราการแพร่พันธุ์ของพญานาคสูงสุดนั้นช้ามากในช่วงเริ่มต้น เมื่อพิจารณาถึงอายุขัยของพวกมัน เมื่อค่าพื้นฐานเพิ่มขึ้น ความเร็วในการสืบพันธุ์ก็จะเร็วขึ้นตามธรรมชาติ

ในการอัญเชิญสามรอบ นักเวทย์ฟิชแมนได้อัญเชิญธาตุน้ำทั้งหมดหกพันอัน ธาตุน้ำเหล่านี้ยืนอยู่บนผิวน้ำราวกับว่าคนทั่วไปยืนอยู่บนโลก โดยมีน้ำในแม่น้ำจำนวนมหาศาลมาบรรจบกันเข้าหาพวกเขา ก่อตัวเป็นคลื่นที่กระเพื่อมไปมา

แต่ในสายตาของหลินเซียว ธาตุน้ำแต่ละธาตุได้แผ่รังสีใต้น้ำที่มองไม่เห็นไปยังคนทั่วไป และแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทุกทาง นี่คือพรสวรรค์ในการควบคุมน้ำโดยกำเนิดของธาตุน้ำ

ความสามารถพิเศษเพียงอย่างเดียวนั้นไม่มากนัก แต่เมื่อธาตุน้ำจำนวนมากรวมตัวกัน กระแสน้ำใต้น้ำจะทับซ้อนกัน และสิ่งนี้สามารถก่อให้เกิดพลังทำลายล้างที่ผลักดันน้ำในแม่น้ำให้เป็นคลื่นสูงตระหง่าน

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่แม่น้ำก็เริ่มที่จะลดระดับน้ำลงอย่างช้าๆ เต็มไปด้วยพลังที่ทำให้หัวใจเต้นแรง

“บูม!”

ทันใดนั้น หลินเซียวก็หันศีรษะไปและเห็นว่าอยู่ห่างออกไปสิบกิโลเมตร สายฟ้าสีฟ้าขนาดมหึมาก็พุ่งออกมาจากท้องฟ้าสีครามและพุ่งตรงไปที่ด้านข้างของยอดเขาที่โดดเดี่ยว ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย และด้วยการมองเห็นที่ยอดเยี่ยมของเขา เขาเห็นว่าสายฟ้าสีฟ้ากระทบกับร่างหนึ่ง และในวินาทีต่อมา สายฟ้าขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนก็ระเบิดออกมาจากร่างนั้นเป็นจุดศูนย์กลาง โดยมีการปรากฏอันทรงพลังพลุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า พร้อมด้วยคำประกาศที่เต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ว่า

“ฟ้าร้องอยู่ในฝ่ามือของฉัน เพราะเราคือเจ้าแห่งความพิโรธ!”

“ฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่?”

ในสายตาของหลินเซียว มันเป็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์สูงประมาณห้าเมตร โดยมีใบหน้าและหูรวมเป็นก้อนสายฟ้าสีเงินที่ด้านหลังศีรษะ และบางครั้งก็มีสายฟ้าเล็กๆ ประกายออกมาเหมือนเส้นผม ด้านหลังร่างนั้นกางปีกคู่หนึ่งกว้างกว่าสิบเมตร สร้างขึ้นจากสายฟ้าล้วนๆ ส่องแสงวูบวาบขณะที่พวกมันกระพือเบา ๆ

“ทำไมมันดูเย็นชาขนาดนั้น”

เขาเหลือบมองสลาร์ดา จากนั้นจึงมองดูมนุษย์ที่เรียกตัวเองว่าลอร์ดแห่งความโกรธเกรี้ยว ความแข็งแกร่งนั้นยากที่จะบอกได้ แต่เพียงการนำเสนอเพียงอย่างเดียวก็ให้ความรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

อืม ชื่อเล่นก็สวยดีเหมือนกัน

หลินเซียวมองไปที่สลาร์ดาอีกครั้ง และสงสัยว่าเขาควรตั้งชื่อเล่นที่ยิ่งใหญ่ให้กับนายพลที่รักของเขาหรือไม่

“อืม ฉันจะหาโอกาสตั้งชื่อเล่นให้เขาในครั้งต่อไป!”

เขาจดบันทึกไว้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขหลังจากค่ายฤดูร้อนสิ้นสุดลง เมื่อเปรียบเทียบกับ Lin Xiao และ Shen Yuexin ที่แต่ละคนมี Epic Hero แล้ว Lin Xu มีฮีโร่ชั้นยอดเพียงตัวเดียว นั่นก็คือ Half-Elf Ranger ไม่มีปรากฏการณ์แผ่นดินไหวที่ทางเข้าของพวกเขา แต่มันจะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่จะดูถูกคู่ต่อสู้ด้วยเหตุนี้

คุณควรรู้ว่านี่คือ Half-Elf Archer ระดับเหนือธรรมชาติ พวกเขาอาจจะธรรมดาในการต่อสู้เดี่ยวตัวต่อตัว แต่ในสนามรบ พวกมันน่าเกรงขาม โดยการยิงธนูนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าสไนเปอร์

คราวนี้ หลินเซียวเรียกฟิชแมนหนึ่งหมื่นห้าพันตัว พญานาคชั้นยอดหนึ่งพันตัว และก็อบลินปรีชาญาณเพียงสองร้อยตัวเท่านั้นที่ถูกส่งไป

พวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปยังสนามรบ แต่เพื่อทำความสะอาดหลังจากยึดครองเมืองแวมไพร์และปราสาท พวกก็อบลินผู้ชาญฉลาดมีความฉลาดสูง ไม่เหมือนพวกฟิชแมนที่จะรวบรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันอย่างโกรธเกรี้ยว สิ่งของมีค่าอาจเสียหายได้ง่ายในลักษณะนี้

ด้วย Wise Goblins พวกเขาอาจจะสามารถปล้นสิ่งของมีค่าเช่นหนังสือและสิ่งดีๆอื่น ๆ ได้

เทคโนโลยีในตำนานอันทรงพลังต่างๆ ในโลกหลักก็เปลี่ยนจากความรู้ในโดเมนที่แตกต่างกัน เช่น การเล่นแร่แปรธาตุ การสร้างอาวุธเวทย์มนตร์ และอื่นๆ

แม้ว่าระดับของงานฝีมือที่เหนือธรรมชาติในโลกหลักจะเหนือกว่าของโดเมนที่แตกต่างกัน และดีกว่าและก้าวหน้ากว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่างานฝีมือจากโดเมนที่แตกต่างกันนั้นไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง มันสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้

หากพวกเขาโชคดีพอที่จะพบเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ยังไม่มีในโลกหลัก การนำมันกลับมาสามารถแลกเปลี่ยนกับผลงานและคุณประโยชน์มากมายจากกองทัพ เช่นเดียวกับรางวัลที่จับต้องได้

ประมาณสองชั่วโมงต่อมา ตระกูลทั้งหมดถูกเรียกออกมา และหลินเซียวก็ปิดพอร์ทัล

ในฐานะจ้าวแห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ หลินเซียวสามารถเรียกประตูเทเลพอร์ตอีกครั้งได้ทุกเมื่อโดยใช้เวลาและพลังแห่งศรัทธาจำนวนหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาประตูเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง

นอกเหนือจากนั้น สมาชิกกลุ่มที่เขาเรียกมาต้องอยู่ในระนาบเดียวกันกับเขา หากเขาออกจากเครื่องบิน สมาชิกกลุ่มทั้งหมดจะถูกเคลื่อนย้ายกลับไปยังอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์โดยอัตโนมัติ

หลังจากสั่งให้สมาชิกกลุ่มยืนตามจุดที่พวกเขาอยู่ หลินเซียวก็บินไปข้างหน้าไปยังจุดสูงสุดอันโดดเดี่ยว และพบกับหลิน ซู่ครึ่งทาง จากระยะไกล พวกเขาเห็น Shen Yuexin นั่งอยู่บนพรมวิเศษขนาดใหญ่และหรูหรา ขนาบข้างด้วย Wingmen สองคนที่สูงตระหง่านสูงประมาณสองเมตรหกสิบเจ็ดเซนติเมตร ปีกของพวกเขาพันกันด้วยสายฟ้า และข้างๆ พวกเขาก็มี Epic Hero ที่ทรงพลังซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม Lord of ความโกรธเกรี้ยว

ที่ด้านล่างสุดของยอดเขาอันโดดเดี่ยว ท้องฟ้าเต็มไปด้วย Wingmen ที่บินได้ พร้อมด้วย Wingmen ที่ทรงพลังจำนวนหนึ่งซึ่งมีปีกที่ประดับด้วยสายฟ้า

“นี่คือกลุ่มของฉัน ปีกสายฟ้า!”

Shen Yuexin ยกมือขึ้น ชี้ไปที่ปีกสายฟ้าระดับเหนือธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่ก้มศีรษะไปในทิศทางของพวกเขา และแนะนำเธอต่อไป:

“กลุ่มของฉันประกอบด้วยหน่วยทางอากาศทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นหน่วยยิงระยะไกลเสริมด้วยนักมายากลสายฟ้าที่ใช้เวทมนตร์ ดังนั้นคุณจะต้องพึ่งพาตัวเองในการโจมตีด้านหน้าในภายหลัง”

เธอกำลังมองไปที่หลินเซียว กองกำลังหลักของ Lin Xu ประกอบด้วย Half-Elf Archers ที่ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นแนวหน้าได้

แน่นอนว่า Wingmen ของเธอก็มีนักสู้ระยะประชิดเช่นกัน แต่นักรบ Wingmen นั้นไม่มีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิด พวกมันมีความเหมาะสมและมีทักษะในการบินกลางอากาศและโจมตีเป้าหมายจากระยะไกลมากกว่า เมื่อพวกเขาถูกดึงลงสู่พื้น พวกเขาก็ดิ้นรนราวกับว่าคนธรรมดาถูกลากลงไปในน้ำ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อพลังการต่อสู้ของพวกเขา

“ไม่มีปัญหา!”

หลินเซียวทุบหน้าอกของเขาอย่างมั่นใจ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความอิจฉาและความประหลาดใจต่อ Wingmen ของเธอ

เขารู้ว่า Shen Yuexin แข็งแกร่ง แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะแข็งแกร่งขนาดนี้ Wingmen เองก็อยู่ในเผ่าพันธุ์ระดับสูง เธอจะต้องมี Wingmen หลายหมื่นคนซึ่งมีอุปกรณ์ครบครัน สิ่งสำคัญที่สุดคือ เธอมีนักเวทย์สายฟ้าเจ็ดสิบถึงแปดสิบคนที่มีปีกห่อหุ้มด้วยสายฟ้าและออร่าที่ไปถึงระดับเหนือธรรมชาติ ซึ่งมีจำนวนมากกว่ากองกำลังของ Lin Xiao หลายเท่า

โดยไม่คำนึงถึงความแข็งแกร่งเฉพาะเจาะจง เนื่องจากพวกเขาเป็นหน่วยทางอากาศ ฝ่ายของ Lin Xiao จะเหนือกว่าอย่างสิ้นเชิงหากเกิดการต่อสู้

“บ้าจริง ฉันจำเป็นต้องพัฒนากลุ่ม Frost Magicians; มันเป็นข้อเสียมากเกินไปหากไม่มีการโจมตีระยะไกล”

ในขณะที่เขาได้เพิ่มอาชีพ Frost Magician แต่มีเวลาไม่เพียงพอ และเขาก็ไม่มีพลังแห่งศรัทธาเพียงพอที่จะเปิดเวทีโบราณ เขาไม่มีนักเวทย์เยือกแข็งมากนัก และระดับของพวกเขาก็ไม่สูงพอที่จะเข้าสู่การต่อสู้จริง

พวกเขาทั้งสามรวมตัวกันรอบแผนที่เสมือนจริงเพื่อหารือและสร้างแผนการปิดล้อมตามสถานการณ์ของสมาชิกกลุ่มของตน

กลยุทธ์นั้นตรงไปตรงมา: เคลื่อนตัวไปตามแม่น้ำ โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของ Fishmen Mockery Magicians เพื่อสร้างกระแสน้ำขึ้นน้ำลงระหว่างการล้อม

เป็นที่รู้กันว่าเมืองของ Duke of Vampires ถูกสร้างขึ้นริมแม่น้ำ ติดกับด้านในของเมือง โดยไม่มีกำแพงริมฝั่งแม่น้ำ การกวนน้ำอาจท่วมเมืองโดยตรง

แน่นอนว่ามันจะเป็นการโจมตีที่ด้านหน้าเมือง

ไม่ว่าแผนจะดีแค่ไหน แต่ก็ยังเป็นรูปแบบการสนับสนุน ในท้ายที่สุด การปิดล้อมโดยตรงและจริงจังจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งที่แท้จริง

เมื่อแผนได้รับการยืนยันแล้ว Shen Yuexin ก็สั่งให้ยุบค่ายทันที ฝูงชนหนาแน่นของ Wingmen ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า และพาพรมวิเศษไปทางริมแม่น้ำ ตรงกลางระหว่างทาง พวกเขาเห็นกองทัพที่ถูกอัญเชิญของ Lin Xu เริ่มออกจากค่าย

เผ่าหลักของเขาประกอบด้วย Half-Elves โดยมีปืนใหญ่เป็น Forest Lizardmen มากกว่าหมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นนักรบที่มี Lizard Shooters เพียงไม่กี่คน

กองกำลังทั้งสามรวมกันมีกองกำลังเกือบสี่หมื่นคน รวมทั้งนักรบหลักและปืนใหญ่ ก่อให้เกิดกองกำลังที่น่าเกรงขามอย่างมาก ตามแนวพื้นที่รกร้างริมแม่น้ำ กองทัพได้เหยียบย่ำพื้นที่โล่งกว้างหนึ่งกิโลเมตรที่ทอดยาวไปจนถึงเมืองแวมไพร์ อัลฟองโซ

เมืองนั้นได้รับการตั้งชื่อตามดยุคแห่งแวมไพร์ อัลฟองโซ ตามแนวทางปฏิบัติทั่วไปในเครื่องบินลำนี้ ซึ่งหลายเมืองได้รับการตั้งชื่อตามขุนนางหรือบุคคลในตำนาน

เมื่อกองทัพเข้าใกล้อัลฟองโซ ก็ถูกพบเห็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และอยู่ห่างจากอัลฟอนโซประมาณ 10 กิโลเมตร Wingmen ของ Shen Yuexin ได้ค้นพบกลุ่มสอดแนมแล้วไม่น้อยกว่าสิบกลุ่ม หน่วยสอดแนมแนวหน้าสังเกตว่ากองกำลังของอัลฟองโซเตรียมพร้อมรบแล้ว

เมื่อกองทัพทั้งสองเข้ามาใกล้กันในระยะสามกิโลเมตร หลินเซียวสั่งให้นักเวทย์มนุษย์เงือกควบคุมธาตุน้ำที่อัญเชิญมาเพื่อเริ่มการเยาะเย้ย โดยเตรียมน้ำในแม่น้ำเพื่อเรียกคลื่นยักษ์

เป็นที่คาดหวังว่าฝ่ายค้านจะค้นพบสิ่งนี้ล่วงหน้าและเตรียมตัวให้พร้อม แต่นั่นก็ไม่ได้ผลเพียงเล็กน้อย ภายในระยะเวลาอันสั้น พวกเขาไม่สามารถสร้างกำแพงเมืองริมแม่น้ำได้ทันที และแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเขาตั้งใจจะทำให้อัลฟองโซท่วม พวกเขาก็ทำได้แต่เฝ้าดูอย่างช่วยไม่ได้เมื่อกระแสน้ำพัดเข้ามา

การโจมตีด้านหน้าเมือง ทำให้น้ำท่วมเมือง นี่เป็นแผนที่เปิดเผย

เมื่อกองทัพอยู่ห่างจากกำแพงเมืองประมาณหนึ่งไมล์ ก็ได้ยินเสียงฆ้องเตือนภัยจากเมืองอย่างเร่งด่วน และนักรบจำนวนนับไม่ถ้วนพร้อมอาวุธก็ขึ้นไปบนกำแพงเมือง

จากทิศทางของเมือง ออร่าเหนือธรรมชาติที่กระหายเลือดจำนวนมากลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า เลือดไหลออกมาจากทั่วเมือง และจากปราสาทของดยุคแห่งแวมไพร์อัลฟองโซด้านหลังเมือง ดยุคแห่งแวมไพร์อัลฟอนโซ เฝ้าดูศัตรูผ่านเทคนิคกระจกเงาน้ำ นึกถึงคำแนะนำที่พันธมิตรของเขาให้ไว้เมื่อจากไป

“แบบฟอร์มดังกล่าว กองทัพที่ไร้สาระ เขาถึงวาระแล้ว!”

หยูซิ่วอยู่ไม่ไกลจากเมืองอัลฟองโซในขณะนี้

เดิมทีเขาต้องการออกจากสถานที่ที่ยากลำบากนี้ให้เร็วกว่านี้ แต่หลังจากที่ไปได้ไม่ไกล เขาก็ได้รับคำสั่งจากบริษัทให้ค้นหาสถานที่ที่ปลอดภัยและรอคำแนะนำเพิ่มเติม