ซุปเปอร์สแปนเดอร์ - บทที่ 95

บทที่ 95: บทที่ 94 การปัดหน้า

ผู้แปล: 549690339

“นาย. ลูอิส คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม” แมทธิว ชานพบว่าปากของเขาแห้ง เสียงของเขาค่อนข้างแหบแห้ง บ่งบอกถึงความตื่นเต้นที่ทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป

Fishy Wells และ Julia Parker นั่งอยู่ข้างๆ เขาต่างก็ตกใจไม่แพ้กัน พวกเขารู้ว่า Finn Lewis ร่ำรวย แต่พวกเขาไม่ได้จินตนาการว่าจะรวยแค่ไหน 30 พันล้านดอลลาร์ของรัฐบาลกลาง? แปลงเป็นเหรียญ Flame Nation ที่มีมูลค่าถึง 1.8 ล้านล้าน! นับเป็นพันล้าน! ความคิดนี้ทำให้พวกเขามองลูอิสแตกต่างออกไป

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะยอมจ่ายเงินอย่างเหลือเฟือเพียงเพื่อจ้างผู้ช่วยผู้หญิงเท่านั้น พวกเขาคิดว่าเขาเป็นคนใช้เงินอย่างประหยัด แต่เมื่อพิจารณาถึงความมั่งคั่งมหาศาลและค่าจ้างของพวกเขา ทั้งหมดนี้ดูเหมือนไม่มีนัยสำคัญเลย แม้ว่าเหรียญ Flame Nation จำนวน 1.8 ล้านล้านเหรียญนี้จะอยู่ในธนาคาร แต่มันก็จะสร้างดอกเบี้ยเป็นพันล้านต่อปี!

พวกเขาไม่สามารถคำนวณจำนวนดอกเบี้ยที่แน่นอนได้ แต่ความตกใจทั้งหมดนี้เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตะลึง พวกเขาตกลงใจกับความจริงที่ว่าผลรวมของเงินเดือนของพวกเขาในระยะเวลากว่าร้อยปีจะไม่เท่ากับดอกเบี้ยรายปีสำหรับความมั่งคั่งของลูอิสด้วยซ้ำ เราควรจะรู้สึกหดหู่ใจเพียงใดเกี่ยวกับเรื่องนั้น?

ลูอิสหยิบเอกสารการโอนออกจากกระเป๋าของเขาอย่างรวดเร็วและวางไว้บนโต๊ะ แมทธิว ชานไม่เสียเวลาและเริ่มอ่านข้อตกลงทันที เขาต้องประหลาดใจเมื่อรู้ว่าเอกสารที่เขาถือไม่ใช่สำเนา แต่เป็นต้นฉบับ! ประณามมัน! เอกสารนี้มีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญของรัฐบาลกลาง และมันแค่นั่งอยู่บนโต๊ะเหรอ?

แม้ว่า Chan จะเป็นผู้จัดการสาขาของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง แต่เขาก็พบว่าความสงบของเขาไม่แน่นอน สายตาของเขาจ้องมองไปที่ลูอิส ชายคนหนึ่งจาก Flame Nation และคำถามก็ผุดขึ้นในใจของเขา เมื่อใดที่คนจาก Flame Nation สามารถจัดการหุ้นในบริษัทของสหพันธรัฐเหนือได้เมื่อใด

และเป็นจำนวนมากขนาดนั้นเลยเหรอ?

ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจครั้งก่อน บริษัทจาก West Swallow พยายามซื้อแบรนด์รถยนต์ Hummer จากสหพันธรัฐเหนือ แต่ล้มเหลวไม่ใช่หรือ? ความล้มเหลวไม่เพียงเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะนโยบายอย่างเป็นทางการของสหพันธรัฐเหนือไม่อนุญาตให้หน่วยงานต่างประเทศซื้อทรัพย์สินดังกล่าว เนื่องจาก Hummer นอกจากจะเป็นแบรนด์รถยนต์แล้วยังจัดหายานเกราะทหารจำนวนมากให้กับภาคเหนือด้วย กองทัพสหพันธ์.

เช่นเดียวกับบริษัท Apple บริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดของโลกไม่เพียงแค่ยอมให้ใครก็ตามซื้อหุ้นของตน นับประสาอะไรกับการมีส่วนสำคัญซึ่งรวมถึงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของพวกเขาด้วย แมทธิว ชานไม่รู้ว่าลูอิสจัดการมันได้อย่างไร เขาสรุปได้เพียงว่าลูอิสน่าประทับใจเป็นพิเศษ

หลังจากสแกนเอกสารอย่างรวดเร็ว แมทธิว ชานก็มั่นใจในความถูกต้องของเอกสาร ในฐานะผู้บริหารธนาคาร มันง่ายสำหรับเขาในการตรวจสอบเอกสารดังกล่าว ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องพูดคือ “นาย ลูอิส เงินกู้ของรัฐบาลกลางจำนวน 300 ล้านเหรียญจะไม่เป็นปัญหา”

“อย่างไรก็ตาม ฉันมีคำถามหนึ่งข้อ” ชานลังเลก่อนจะพูด

“เอาเลย” ลูอิสพยักหน้า

“จากเอกสารนี้ดูเหมือนว่าหุ้นของคุณไม่สามารถโอนได้?” ชานถาม..

“แท้จริงแล้วหุ้นเหล่านี้ไม่สามารถโอนได้ แต่เป็นชื่อของฉัน เลยสงสัยว่าคุณจะให้เงินกู้ผมหรือเปล่า?” ลูอิสตอบด้วยรอยยิ้ม

แมทธิว ชานเริ่มครุ่นคิด การให้กู้ยืมเพื่อเป็นหลักประกัน เช่นเดียวกับการกู้ยืมเพื่อเป็นหลักประกันหุ้น มักจะเกี่ยวข้องกับการลงนามในสัญญากับธนาคาร สัญญากำหนดว่าหากผู้กู้ไม่ชำระคืนเงินกู้ยืมภายในระยะเวลาที่ตกลงกัน หุ้นที่เป็นหลักประกันจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคาร กลุ่มบริษัทธนาคารทุกแห่งถือหุ้นในบริษัทจำนวนมาก บางแห่งเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนของตน และบางแห่งเกิดจากการผิดนัดหลักประกัน เป็นที่ทราบกันดีว่า Floral Wealth Group ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบกลุ่มทางการเงินชั้นนำในสหพันธรัฐเหนือ ไม่ใช่แค่ธนาคารดอกไม้สีแดงเท่านั้น

Red Flower Bank ประกอบด้วยกลุ่มไม่ถึง 1 ใน 20 ของกลุ่ม แต่กลุ่มได้ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากธนาคาร ในทำนองเดียวกัน ICBC ก็ดำเนินไปในวิถีเดียวกัน แน่นอนว่าทุกธนาคารต้องเผชิญกับกระบวนการนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หุ้นที่อยู่ในความครอบครองของ Lewis นั้นเป็นหุ้นพิเศษ ไม่สามารถโอนได้

นั่นหมายความว่าธนาคารไม่สามารถลงนามในสัญญาหลักประกันตามปกติได้ เนื่องจากไม่สามารถเข้าซื้อหุ้นของ Lewis ได้ สิ่งนี้ทำให้เกิดปัญหากับธนาคาร ดูเหมือนมันจะขาดความปลอดภัยเลย วิธีที่ลูอิสถามคำถามนั้นน่าสนใจ คุณจะให้เงินกู้ฉันไหม? ลูอิสไม่ได้เสนอหลักประกันให้กับธนาคาร แม้แต่หุ้นที่เขาถือก็ไม่สามารถใช้เป็นหลักประกันได้เนื่องจากไม่สามารถโอนสิทธิ์ได้ การโยนเอกสารการโอนให้ ICBC ไม่ได้ผลอะไร หากไม่มีลายเซ็นของ Lewis ธนาคารก็ไม่สามารถเรียกร้องค่าหุ้นได้

พูดง่ายๆ ก็คือ ลูอิสกำลังขอเงินกู้โดยพิจารณาจากชื่อเสียงของเขาแต่เพียงผู้เดียว และน่าประหลาดใจที่ธนาคารต่างๆ ไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้ พวกเขาตระหนักดีว่าลูกค้ามีความสามารถในการชำระคืน ไม่สามารถโอนหุ้นได้ แต่ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าไม่ต้องสงสัยเลย คำถามตอนนี้คือพวกเขาจะให้ยืมเงินแก่ลูกค้าคุณภาพสูงเช่นนี้หรือไม่? เราไม่ได้แค่พูดถึงเงินกู้นี้เท่านั้น มันเป็นเรื่องของความร่วมมือในอนาคต!

นอกจากนี้ Matthew Chan ยังทราบดีว่าหากยื่นคำขอกู้ยืมต่อธนาคาร Rhine Kingdom หรือธนาคาร Red Flower ธนาคารจะได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอน จำนวนเงินที่ได้รับอนุมัติจะเกิน 300 ล้านเหรียญของรัฐบาลกลางด้วยซ้ำ นี่คือความแตกต่างระหว่างธนาคารในประเทศและต่างประเทศ!

“ฉันต้องรายงานเรื่องนี้ก่อน อย่างไรก็ตาม คุณลูอิส คุณวางใจได้ เราจะตอบกลับคุณโดยเร็วที่สุด เราน่าจะได้คำตอบภายในบ่ายนี้ แต่ฉันต้องทำสำเนาเอกสารนี้” ในที่สุดชานก็พูดหลังจากครุ่นคิดอยู่นานและยืนหยัดอย่างมั่นคง..