ซุปเปอร์สแปนเดอร์ - บทที่ 89

บทที่ 89: บทที่ 88 ความกลัวศูนย์

ผู้แปล: 549690339

“บทที่ 88: แม้แต่ศูนย์ก็ยังตกใจ

“มีความคิดอีกอย่างหนึ่ง คุณช่วยรวบรวมแผนการเดินทางของเธอ รวมถึงเมืองที่เธอไปบ่อย ๆ ได้ไหม” Finn Lewis คิดอยู่พักหนึ่งเอียงหัวแล้วถาม

“คุณวางแผนจะทำอะไร” เจ้าชายจ้องไปที่ฟินน์ทันทีและถาม

“ก็ไม่มีอะไรจริงๆ ฉันกำลังคิดว่าถ้าฉันเปิดร้านอาหารเครือ ‘Moon of West Lake’ ในทุกเมืองที่เธอไปบ่อยๆ โดยเฉพาะเพื่อรับใช้เธอ คุณคิดว่าเธอจะประทับใจไหม” ฟินน์เกาคางขณะที่เขาถาม

เมื่อได้ยินคำพูดของฟินน์ ทั้งเจ้าชายและแดเนียล แพนก็ตกตะลึง อึศักดิ์สิทธิ์! นี่คือวิธีที่คุณติดตามผู้หญิงคนหนึ่ง? นี่ไม่ใช่แค่การค้นหาวิธีที่จะเปลืองโชคลาภของคุณใช่ไหม “ใช่! เธอจะต้องเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน” เจ้าชายจ้องมองฟินน์แล้วโต้เถียงโดยซ่อนความขมขื่นของเขาไว้

“บ้า แล้วน้ำเสียงของคุณเป็นยังไงบ้าง? ทำไมคุณถึงขุ่นเคืองขนาดนี้? คุณดูเหมือนแม่บ้านที่ไม่พอใจ!” ฟินน์กลอกตาของเขา

“ให้ตายเถอะ คุณถามจริงๆเหรอ? คุณกำลังพยายามทำให้การดำรงอยู่ของเราไร้ประโยชน์หรือไม่? เพื่อเอาชนะใจผู้หญิง คุณวางแผนที่จะเปิดร้านอาหารในทุก ๆ เมืองที่เธอสามารถไปเยี่ยมชมได้หรือไม่? และให้บริการเธอโดยเฉพาะ? คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่? คนรวยอย่างคุณสมควรโดนทุบตี มานี่สิ ฉันรับรองว่าจะไม่ทุบตีเธอให้ตาย” เจ้าชายบ่น

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ คุณรู้ไหมว่านักแสดงมากความสามารถอย่างเคย์ ลี ซึ่งโด่งดังไปทั่วโลกจะต้องเดินทางกี่เมืองทุกปี” ในทางกลับกัน แดเนียลหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาพูด

“เงินทุนประเภทนี้ไม่อยู่ในขอบเขตข้อกำหนดของฉัน” น่าแปลกที่เสียงของซีโร่ดังก้องอยู่ในใจของฟินน์ ฟินน์กลอกตา รู้สึกหมดหนทาง โดยปราศจากเงินทุนจาก Zero เงินทุนของเขาเอง…เอาล่ะ นี่เป็นจำนวนมหาศาลและยาวนานจริงๆ แม้แต่ในประเทศจีน มันก็จะยิ่งใหญ่มาก ไม่ต้องพูดถึงเมืองโพ้นทะเล

อย่างไรก็ตาม Finn เพิกเฉยต่อสิ่งนี้โดยสิ้นเชิง เขาใช้ทรัพย์สมบัติของเขาอย่างสุรุ่ยสุร่ายจนแม้แต่ซีโร่ก็ยังหวาดกลัว การที่ซีโร่จะหวาดกลัวอย่างแท้จริงหรือไม่นั้น ก็ยากที่จะบอกได้

หากซีโร่ไม่จัดหาเงินทุน ฟินน์ก็สามารถคิดผ่านและค่อยๆ ดำเนินการด้วยตัวเอง เริ่มจากเมืองหนึ่งและไปยังเมืองถัดไป ในที่สุดเขาก็จะครอบคลุมทั้งโลก บางทีเขาอาจจะสร้างสิ่งที่เทียบเท่ากับแมคโดนัลด์ แต่เขาจะไม่เปลี่ยนร้านอาหารของเขาให้เหมาะกับร้านขนาดเดียวอย่างแน่นอน

“ภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้เริ่มต้นจากก้าวเดียว ฉันคิดว่าความคิดของฉันยังคงมีศักยภาพ” ฟินน์ลูบคางแล้วพูดว่า

“นี่คือความฝันของคุณที่จะสุรุ่ยสุร่ายความมั่งคั่ง” เจ้าชายกลอกตา “พอแล้ว ฉันกับแดเนียลกำลังจะไปแล้ว คุณสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง ให้ตายเถอะ การอยู่กับคุณเป็นเพียงการทำลายแรงจูงใจของเรา”

“บ้า อย่าจากไปนะ ฉันยังต้องการความช่วยเหลือจากคุณในเรื่องความคุ้มครอง ถ้าพวกคุณจากไปฉันควรทำอย่างไร” ฟินน์รีบหยุดเจ้าชาย ถ้าคนนี้ออกไปตอนนี้ใครจะคอยอยู่ในร้านอาหารเพื่อบอกคนรับใช้ว่าควรจะเสิร์ฟใคร?

พวกเขาทั้งสามพูดติดตลกอยู่พักหนึ่ง ไม่นานลูกค้าในร้านอาหารก็จากไป แต่โดยธรรมชาติแล้ว ฟินน์และคนอื่นๆ ก็ยังตามหลังอยู่ พวกเขายังคงรอให้การถ่ายทำโฆษณาของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเสร็จสิ้น พูดตามตรง แม้ว่า Finn Lewis จะล้อเล่นกับเจ้าชายอยู่เสมอ แต่จิตใจของเขากลับเต็มไปด้วยความคาดหวัง นี่คือเทพธิดาที่เคยครอบครองหัวใจของเขา! โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซีโร่บอกฟินน์ว่าเคย์ ลียังเป็น… บริสุทธิ์ มันยิ่งทำให้เธอเป็นเหมือนเทพธิดาสำหรับเขามากยิ่งขึ้น

คุณต้องบอกว่าสำหรับผู้ชาย แม้ว่าพวกเขาจะไม่พูดถึงมัน แต่มันก็รบกวนจิตใจลึกๆ ของพวกเขา แน่นอนว่าสิ่งนี้สามารถตีความได้ว่าเป็นการรับรู้ของผู้ชายเกี่ยวกับผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ และเนื่องจาก Zero คอยอัปเดตอยู่เสมอ ฟินน์จึงตระหนักถึงความคืบหน้าของการถ่ายทำโดยธรรมชาติ ในที่สุดพวกเขาก็ถ่ายโฆษณาครั้งสุดท้ายเสร็จเมื่อเวลา 12.30 น.

“เอาล่ะ เธอถ่ายโฆษณาเสร็จแล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะมาได้ไหม” ฟินน์ส่ายหัวเบาๆ แกล้งตรวจสอบโทรศัพท์แล้วพูดว่า

“มาเตรียมตัวกันก่อน แม้ว่าโดยทั่วไปเราจะปิด ‘พระจันทร์แห่งทะเลสาบตะวันตก’ ในเวลานี้ วันนี้เราเปิดมันไว้ และถ้าเธอเห็นมัน ฉันเชื่อว่าเธอจะต้องมา” เจ้าชายรีบตอบ

ฟินน์พยักหน้าแล้วบอกให้เจ้าชายอธิบายให้พนักงานเสิร์ฟฟัง อย่างไรก็ตาม พนักงานเสิร์ฟทุกคนรู้ดีว่าผู้หญิงที่กำลังมากำลังจะถูกเจ้านายในอนาคตไล่ตาม พวกเขาไม่กล้าทำเป็นว่าง่ายอย่างแน่นอน และยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่เคยได้ยินเจ้านายของพวกเขาพูดว่า ร้านอาหารนี้จะไม่ต้อนรับลูกค้ารายอื่นอีกต่อไปหรือไม่ เตรียมไว้สำหรับผู้หญิงคนนี้โดยเฉพาะ ดังนั้น วันนี้กับเจ้านายที่นี่ ไม่ว่าพวกเขาจะทำงานได้ดีหรือไม่ก็ตาม ขึ้นอยู่กับเงินเดือนและสวัสดิการในอนาคต

หลังการถ่ายทำ เคย์ ลี รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด วันนี้ผู้กำกับค่อนข้างเข้มข้นและใส่ใจในรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน อย่างไรก็ตาม เคย์ ลีมีความเป็นมืออาชีพอยู่เสมอและไม่เหมือนกับดาราดังบางคน หากผู้กำกับบอกว่าไม่ดีเธอก็จะถ่ายทำต่อไป โฆษณาที่ปกติจะเสร็จก่อน 9 โมงก็ขยายออกไปจนหลังเที่ยงคืน โชคดีที่มันห่อได้สำเร็จ

แต่หลังจากถ่ายทำเสร็จ ท้องของเคย์ ลีก็เริ่มมีเสียงดัง ในฐานะศิลปินหญิง การรักษารูปร่างของเธอเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหมายความว่าจะต้องวัดปริมาณอาหารของเธออย่างระมัดระวัง เธอไม่มีอะไรมากสำหรับมื้อเย็น และหลังจากเหนื่อยจนถึงเที่ยงคืน เธอก็ค่อนข้างหิวแล้ว

หลังจากบอกลาทุกคนด้วยรอยยิ้ม เธอที่ยิ้มให้ทุกคนตลอดทั้งคืนกลับมีสีหน้าแข็งทื่อ แต่รอยยิ้มแบบมืออาชีพเช่นนี้เธอคุ้นเคยกับพวกเขามานานแล้ว สำหรับคนเช่นพวกเขา บ่อยครั้งการยิ้มเป็นเพียงการแสดงสีหน้าและไม่ได้แปลว่ามีความสุขเสมอไป

“เอมิลี่ ฉันจะก้าวออกไปสักหน่อย พวกคุณควรจะกลับบ้านได้แล้ว ฉันจะกลับโรงแรมด้วยตัวเอง” หลังจากเตรียมตัวในห้องแต่งหน้าหลังเวที เคย์ก็กล่าว

“เคย์ มันไม่สายเกินไปเหรอ?” เอมิลี่ซึ่งเป็นผู้ช่วยของเคย์รู้นิสัยของเคย์ดี เธอจึงไม่ได้ถามว่าเคย์จะทำอะไร เธอกังวลเล็กน้อยว่าสายเกินไปสำหรับเธอที่จะออกไปข้างนอก

“อย่ากังวล มันดึกแบบนี้มาตลอด นอกจากนี้ใครจะจำฉันได้ในการปลอมตัวนี้” เคย์หัวเราะเบาๆ ดูเหนื่อยใจนิดหน่อย “ฉันรู้สึกอยากอยู่คนเดียวสักพักและผ่อนคลาย”

“ตกลง.” เอมิลี่ลังเลก่อนพยักหน้าเห็นด้วย อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น หลังจากบอกลาผู้ช่วยของเธอแล้ว เคย์ ลี ก็ผละตัวออกจากบริษัทผ่านทางประตูหลัง นี่เป็นเส้นทางที่เธอคุ้นเคยมาก โดยเคยทำมาหลายครั้งแล้ว แม้จะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว แต่ในเมือง S สถานบันเทิงยามค่ำคืนก็เพิ่งเริ่มต้น ผู้คนจำนวนมากยังคงเอนเอียงภายใต้สปอตไลท์

เคย์ลีเดินเล่นไปตามถนนและสังเกตคนเดินถนนรอบตัวเธอเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย เพียงในช่วงเวลาโดดเดี่ยวเหล่านี้เท่านั้นที่เธอไม่รู้สึกเหนื่อยล้า ในวัยเด็ก เธอมาที่นี่โดยมีวัตถุประสงค์หลักสองประการ หนึ่งเพื่อไล่ตามความฝันของเธอ และสอง เพื่อให้แม่และยายของเธอมีวิถีชีวิตที่ดี แม้ว่าปู่ของเธอรักเธออย่างสุดซึ้ง แต่เธอก็มีความสัมพันธ์ที่เย็นชากับพ่อของเธอ และพวกเขาก็แทบจะไม่ได้คุยกันเลย

ด้วยเหตุนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างปู่ของเธอกับพ่อของเธอจึงไม่ดีนัก แต่เขากลับสนับสนุนเธอและแม่ของเธออย่างมาก แม้ว่าเขาจะเสนอเงินให้ แต่เคย์ลีก็ไม่ยอมรับ เธอต้องการเป็นอิสระและทำทุกอย่างให้สำเร็จด้วยความพยายามของเธอเอง ตอนนี้เธอประสบความสำเร็จและเติมเต็มความฝันของเธอแล้ว แต่เธอก็เหนื่อยล้าอย่างไม่น่าเชื่อ เธอกำลังหมดสภาพจิตใจ แม้ว่าเธอจะอายุเพียง 22 ปี แต่ในช่วงเวลาแห่งความเหงาเหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกสงบมากที่สุด..