ซุปเปอร์สแปนเดอร์ - บทที่ 171

บทที่ 171: บทที่ 167: แผนไม่สามารถตามการเปลี่ยนแปลงได้

ผู้แปล: 549690339

เช้าวันรุ่งขึ้น ฟินน์ ลูอิส ได้รับโทรศัพท์จากลุงของเขา แต่เมื่อรับสาย กลับไม่ใช่ลุงของเขาในสาย แต่เป็นเจสัน เวลส์ “พี่ชาย ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะมากับ คุณ แต่มีบางอย่างที่ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ” เจสันกล่าวว่า

“ไปต่อ” ฟินน์พยักหน้า

“คุณให้ฉันยืม 5,000 หยวนได้ไหม? เมื่อคืนฉันทำโทรศัพท์หาย และฉันต้องออกไปซื้อเครื่องใหม่” เจสันโพล่งออกมา

“ได้เลย ไม่มีปัญหา มาทีหลังแล้วฉันจะมอบให้คุณ” ทำโทรศัพท์หาย? ฟินน์ผงะไปครู่หนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาแค่พยักหน้าและเห็นด้วย หลังจากที่เจสันพูดจบ เขาก็ส่งโทรศัพท์คืนให้ลุงที่รับสาย ลุงคุยกันประมาณหนึ่งหรือสองนาทีก่อนที่เขาจะลดเสียงลงและถามในที่สุดว่า “ฟินน์ ตัวร้ายคนนี้กลับมาบ้านเมื่อวานนี้แล้วบอกว่าเขาต้องการไปกับคุณ เมื่อวานเขาไม่ได้ออกไปกับคุณเหรอ? คุณชักชวนให้เขาทำอย่างนั้นเหรอ?”

“ ลุงไม่ต้องกังวล เพราะเขาตัดสินใจมากับฉันแล้ว มันเป็นสิ่งที่ดี คุณไม่สบายใจที่จะทิ้งเขาไว้กับฉันเหรอ? ฉันรับประกันว่าเขาจะได้เรียนรู้” ฟินน์พูดคุยกับก

ยิ้ม เดาว่าลุงของเขาคงจะก้าวออกไปไกลๆ เพื่อที่เจสันจะไม่ได้ยินสายเรียกเข้า

“เขา… เขาแค่ขอเงินคุณใช่ไหม? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาแค่หาข้อแก้ตัวที่จะยืมจากคุณล่ะ” ลุงของเขาถามอย่างเป็นกังวลว่า “ปกติแล้วเราไม่กล้าให้เงินเขามากเกินไป และหากไม่มีแหล่งรายได้ เขาจะไม่ออกไปสร้างความเดือดร้อนถ้าเขาไม่มีเงิน”

ฟินน์ส่ายหัวเล็กน้อย คุณคงบอกได้ว่าเจสันเป็นตัวปัญหามากแค่ไหน เมื่ออายุยี่สิบสามหรือยี่สิบสี่ปี เขายังคงพึ่งพาเงินจากที่บ้าน ถ้าลุงและป้าของเขาทำเงินได้ดีก็คงจะแตกต่างออกไป แต่ทั้งลุงและป้าของเขาทำงานให้คนอื่น พวกเขาสองคนรวมกันอาจทำรายได้เพียงห้าหรือหกพันหยวนต่อเดือนเท่านั้น

“ลุงไม่ต้องกังวล เขารู้ว่าตอนนี้ฉันมีเงินแล้ว หากเขาไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง เขาคงไม่ขอเงินฉันแค่ 5,000 หยวน” ฟินน์คิดครู่หนึ่งก่อนจะพูด แต่เขาไม่สามารถบอกพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ได้ หากพวกเขารู้ พวกเขาคงไม่เข้าใจอย่างแน่นอน

เพื่อให้เจสันตรงไปตรงมา ต้องใช้วิธีหนักหน่วงแบบเมื่อคืนนี้ ทำให้เขารู้ว่าผู้หญิงที่เขาคิดว่าเป็นเทพธิดาหรือทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารู้นั้นไม่มีความหมายสำหรับคนอื่นเลย พวกเขาสามารถกวักมือเรียกหรือไล่ออกได้ตามต้องการ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อความคิดของเขานั้นชัดเจน

ในอดีตเขารู้เพียงเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ แต่ตระหนักว่าเขาไม่มีโอกาสไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ฟินน์กำลังให้โอกาสเขา ด้วยความหวัง ย่อมมาพร้อมกับแรงจูงใจ

เมื่อเขาก้าวแรกนี้ แม้ว่าเขาต้องการกลับไป เขาก็คงจะไม่ต้องการกลับไป หลังจากเคลียร์เรื่องกับลุงของเขาแล้ว ฟินน์ก็วางสายไป เมื่อสายแล้ว เจสันก็เข้ามาหาฟินน์ซึ่งไม่เสียคำพูดเลย เขาให้ Fishy Wells นำเงิน 5,000 หยวนไปมอบให้กับ Jason และส่งเขาไปจัดการเรื่องของเขา

“ฟินน์ ทำไมคุณถึงให้เงินเขา? คุณยังคิดว่าเขาบริสุทธิ์อยู่ไหม? คนพาลคนนั้นถอนหายใจ…. ไม่มีทางช่วยเขาได้” ป้าของเขาเฝ้าดูฟินน์ให้เงินกับเจสัน แม้ว่าเธอจะไม่พูดอะไรต่อหน้าเจสัน แต่ทันทีที่เขาจากไป เธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

“ป้าไม่ต้องกังวล เมื่อวานเขาทำโทรศัพท์หายและยืมเงินจากฉันเพื่อซื้อโทรศัพท์ใหม่ นอกจากนี้ เขาตัดสินใจแล้วที่จะมา Celeston City กับฉันด้วย เมื่อถึงที่นั่นเขาจะไม่รู้จักใครเลย ถ้าฉันต้องการทำให้เขาตรงก็ใช้เวลาเพียงนาทีเดียว” ฟินน์พูดด้วยรอยยิ้ม

“จริงหรือ? คุณโน้มน้าวเขาได้อย่างไร? เมื่อวานเมื่อคุณคุยกับเขา เขาดูไม่มีความสุขเลย” ป้าของเขาถามอย่างสงสัย พวกเขาเคยพยายามช่วยเขามาก่อน โดยหางานที่เหมาะสมให้เขาหลายงาน แม้ว่าเงินเดือนจะเริ่มต้นไม่สูงนัก แต่อย่างน้อยก็มีงานที่มั่นคง แต่สำหรับงานส่วนใหญ่ เขาไม่สามารถอดทนได้แม้แต่เดือนเดียวก่อนที่จะยอมแพ้

“เมื่อวานฉันพาเขาออกไปข้างนอกได้สักพักแล้วได้คุยกับเขาแบบจริงใจ นี่เป็นเรื่องของพี่น้อง ดังนั้นพวกคุณไม่จำเป็นต้องถามเกี่ยวกับเรื่องนี้” ฟินน์พูดพร้อมกับก

รอยยิ้ม.

“เอาล่ะเราจะไม่ถามแล้ว แต่ฟินน์ จากนี้ไปเจสันก็อยู่ในมือคุณแล้ว ลุงของคุณมีลูกชายเพียงคนเดียว คุณควรจับตาดูเขาไว้ดีกว่า หากเขากลายเป็นคนเลวก็รอจนกว่าฉันจะกลับมาเพื่อเฆี่ยนตีคุณ” เฮเซลกล่าวว่า

“ไม่ต้องกังวลพ่อ ฉันมีสิ่งนี้” ฟินน์พูดพร้อมกับหัวเราะ

“ยังไงก็ตาม ป้าคนที่สองของฉันอยู่ที่ไหน” ฟินน์มองไปรอบๆ โซฟี ลี ปรากฏตัวเมื่อเช้าวันนั้น แต่แล้วเธอก็หายตัวไป และเขาไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน

“เธอออกไปซื้อเนื้อให้คุณ คุณไม่ได้รักแค่เนื้อเหรอ?” เฟย์ เวลส์มองฟินน์ “เอาล่ะ” ฟินน์เกาหัว เขาเป็นคนกินเนื้อ อาหารในเมืองเซเลสตันมีแนวโน้มที่จะเบากว่า เขาชอบอาหารทางเหนือที่แสนอร่อย

“ว่าแต่ คุณจะออกเดินทางเมื่อไหร่” เฟย์นั่งลงบนโซฟาแล้วมองฟินน์ขณะที่เธอถาม

ฟินน์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วตอบว่า “น่าจะภายในสามหรือสี่วัน บ้านที่เราซื้อที่นั่นมีเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ ฉันต้องแน่ใจว่าพวกคุณทุกคนเรียบร้อยดี แล้วบ่ายนี้เราจะไปดูบ้านกันไหม? หากมีสิ่งใดที่คุณพบว่าไม่เหมาะสมเราสามารถจ้างคนมาซ่อมแซมได้”

“เราสามารถพูดคุยเรื่องนั้นได้เมื่อเราเห็นบ้าน แต่ป้าของคุณและลุงคนที่สองของคุณ…” เฟย์ลังเลแล้วถามอีกครั้ง

“แม่ ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น ฉันควบคุมทุกอย่างได้แล้ว Olivia และ Leo ทั้งคู่อาศัยอยู่ใน Hello City ใช่ไหม? ผมก็ซื้อบ้านให้ป้าเหมือนกันแต่ยังไม่ได้แจ้งเลย ลุงของฉันเป็นครูมัธยมต้น เขาจะย้ายออกไม่ได้สักระยะหนึ่ง แต่ก็ดีที่มีบ้านพร้อมสำหรับพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ย้ายเข้าตอนนี้ โอลิเวียก็สามารถอยู่ที่นั่นได้” ฟินน์พยักหน้าขณะพูด

“อืม เอาล่ะ ตราบใดที่คุณจัดการมันฉันก็สบายใจได้” เฟย์พยักหน้าเห็นด้วย เธอไม่รู้ว่าลูกชายของเธอหาเงินได้เท่าไร และถึงแม้ว่าการซื้อบ้านหลายหลังจะต้องมีราคาแพงมาก แต่พ่อแม่ของฟินน์ก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะรับโดยไม่ให้ แต่พวกเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ฟินน์คิดถึงสิ่งเหล่านี้

เกือบทุกคนมารวมตัวกันตอนเที่ยง แม้ว่าบ้านของป้าจะใหญ่ แต่ไม่นานก็เต็มไปด้วยผู้คน ทุกคนยิ้มแย้ม แม้แต่พี่เขยคนที่สองก็ยังขอลาออกจากโรงเรียน สำหรับตารางเรียนของวิทยาลัยนั้น มักจะมีความยืดหยุ่น เขาสามารถเปลี่ยนชั้นเรียนได้ พี่สาวคนโตและพี่เขยก็มาด้วย แทบจะไม่มีใครหายไปเลย เพราะทุกคนจะไปดูบ้านกันในช่วงบ่าย

ฟินน์ไม่ได้จัดวิลล่าแยกต่างหากให้พ่อแม่ของเขาเช่นกัน แต่จัดเป็นวิลล่าทาวน์เฮาส์ที่เชื่อมต่อกัน วิลล่าที่แยกจากกันนั้นค่อนข้างไกลจากที่อื่น ทำให้พ่อแม่ของเขาอยู่ด้วยกันเพื่อไม่ให้พวกเขาเหงา พวกเขาสามารถไปเยี่ยมผู้อื่นได้ทุกเมื่อที่พวกเขารู้สึกต้องการ

ฟินน์ได้โทรติดต่อฝ่ายขายเพื่อจัดการทุกอย่างแล้ว ไม่มีใครจะพูดหกใส่ เพราะพวกเขารู้ว่าอะไรควรและไม่ควรพูด ผู้จัดการก็ค่อนข้างมีประสิทธิภาพเช่นกัน โดยเช่ารถบัสโดยตรงเพื่อพาฟินน์และคนอื่นๆ ไปดูบ้าน..