ซุปเปอร์สแปนเดอร์ - บทที่ 128

บทที่ 128: บทที่ 125: โลกแห่งความมั่งคั่งที่คุณไม่เข้าใจ

ผู้แปล: 549690339

แต่สำหรับผู้เล่นบนเซิร์ฟเวอร์อื่น เพราะพวกเขาไม่เห็นการเพิ่มขึ้นเป็น 18 หรือ 19 พวกเขาจึงเห็นเพียงข้อความระบบสุดท้ายเกี่ยวกับมันถึง 20 ทุกคนต่างประหลาดใจ บ้าจริง! พวกเขาเคยเห็นคนทุบอุปกรณ์เพื่อทำให้หน้าจอระบบติดขัด และแม้กระทั่งใช้ World Command เพื่อทำเช่นเดียวกัน แต่พวกเขาไม่เคยเห็นการบัฟเฟอร์ใด ๆ จนถึงระดับ 20 ที่อาจทำให้หน้าจอระบบท่วมท้นได้! คนนี้ต้องรวยขนาดไหน? ช่างเป็นที่เปิดหูเปิดตา!

นอกจากนี้ ผู้เล่นในเซิร์ฟเวอร์อื่นรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับ Literati Saucy Poet จากเหตุการณ์พูดคุยถ่มน้ำลายในฟอรัมก่อนหน้านี้ เมื่อเห็นประกาศใหม่ คนที่ไม่รู้จักเขามาก่อนคงรู้เกี่ยวกับเขาแล้ว! มันยอดเยี่ยมเกินไป! คนรวยที่สาดเงินซ้ายขวาคนนี้คือใคร!

GM ที่ติดตามเขตนี้ค่อนข้างตกตะลึง มี GM ไม่กี่คนที่ปฏิบัติหน้าที่; แต่ละคนตรวจสอบเขตเฉพาะ ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นข้อความป๊อปอัปในเขตของตนเองโดยธรรมชาติ พวกเขาทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ด้านหลัง GM ของเซิร์ฟเวอร์ Memory Empire และเริ่มชม “ว้าว คุณมีการใช้จ่ายจำนวนมากในภาคส่วนของคุณจริงๆ เหรอ? ให้ตายเถอะ วิธีการใช้จ่ายนี้แตกต่างออกไปมากทีเดียว! แต่เดวี คุณไม่ได้ลดอัตราความสำเร็จของผู้ใช้จ่ายรายใหญ่นี้ลงหรือ? มันขึ้นไปถึง 20 อย่างรวดเร็วได้ยังไง?” GM อีกคนจากเขตอื่นอดไม่ได้ที่จะถาม

คนอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย จริง ๆ แล้วทำไมมันถึง 20 ได้เร็วขนาดนี้ล่ะ? คนที่ชื่อเดวี่ค่อนข้างพูดไม่ออก แน่นอน เขาลดมันลงแล้ว! นี่เป็นกฎโดยปริยายอยู่แล้ว โดยปกติแล้วผู้ใช้จ่ายรายใหญ่อย่าง Dis มักจะโชคร้ายเมื่อต้องอัปเกรดอุปกรณ์ เหตุผลก็อธิบายได้ด้วยตนเอง แต่เขาลดอัตราความสำเร็จลงจริงๆ ปัญหาคือ มันไม่ได้ผลเลย!

หลังจากที่ Finn Lewis ทุบอุปกรณ์ทั้งซ้ายและขวา GM คนนี้ก็พบว่าแม้ว่าเขาจะล้มเหลวบ้างเป็นครั้งคราว แต่อัตราความสำเร็จของเขาก็สูงจนน่าตกใจ—ซึ่งสูงกว่าอัตราความสำเร็จโดยเฉลี่ยอย่างน้อย 30%! มันเกือบจะท้าทายสวรรค์แล้ว โชคของเขาดีขนาดนั้นจริงๆ หรือในฐานะผู้ใช้จ่ายรายใหญ่จริงๆ? เขาสามารถตีความน่าจะเป็นเพียงเล็กน้อยนั้นในแต่ละครั้งได้หรือไม่? GM ผู้ทุกข์ทรมานแทบจะเป็นบ้า ฟินน์ซึ่งมีเพชรเต็มตัว 20 เม็ด อาจใช้เวลาน้อยกว่าผู้ที่มีเพชรเต็ม 20 เม็ดประมาณหนึ่งในสาม!

ฟินน์ไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ แต่แม้แต่ GM ก็แทบจะคลั่งไคล้เขาเลย

“ให้ตายเถอะ ซอว์เยอร์ คุณ… ฉันไม่รู้จะพูดอะไรกับคุณอีกต่อไปแล้ว ฉันบอกได้คำเดียวเท่านั้น: คุณยอดเยี่ยมมาก!” ในช่องหลายภาษา แม้แต่ Mia Westfield ก็อดไม่ได้ที่จะพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับ Finn

“ฮิฮิ แล้วเป็นยังไงบ้าง? มันเจ๋งไหม? บอกฉัน! มันเจ๋งไหม?” ฟินน์หัวเราะสองสามครั้งแล้วถามเสียงดัง

“เย็น! เท่เหมือนกางเกง!” เมื่อพูดแบบนี้ เขาก็ตะโกนในช่องหลายภาษาอีกครั้งทันที: “เหี้ย! Blade’s Guild ได้เสพยาหรืออะไร? ทำไมจู่ๆ พวกเขาก็ทำเหมือนเป็นบ้าไปแล้ว? ให้ตายเถอะ พวกเขาเปิดการต่อสู้ใน Yanqiu แล้ว รีบหน่อย รีบหน่อย Savvyer รีบสวมชุดแล้วเข้ามาเลย ไอ้เหี้ย Finn คงทำให้ Blade หลุดจากอันดับไปแล้ว พวกมันคงจะเค็มมาก! –

เมื่อได้ยินดังนั้น ฟินน์ก็รีบตะโกนออกมา: “ให้ตายเถอะ ฉันจะไปแล้ว ฉันไม่เคยกลัวพวกเขาเลยแม้จะไม่มีอุปกรณ์ก็ตาม ตอนนี้มีบ้างแล้วครับผม.

แทบรอไม่ไหวที่จะแกว่งดาบใหญ่ของฉัน! ฉันกำลังมา!”

“ให้ตายเถอะ คุณกำลังถือธนูอยู่หรือเปล่า?”

“มาเลย เข้าร่วมทีมของฉันเร็วๆ มารวมตัวกันที่ Yanqiu หากพวกเขากล้าเริ่มการต่อสู้ เราก็จะจัดการพวกมัน!” ฟินน์ตะโกนเสียงดังในช่องหลายภาษา

ช่องดังกล่าวสะท้อนคำพูดของเขาทันที ผู้ที่อยู่ในกลุ่มบางครั้งมีเพียงยี่สิบถึงสามสิบคนและกล้าที่จะกระชับกับ Blade’s Guild ไม่จำเป็นต้องพูดตอนนี้เมื่อทีมเต็ม ผู้มาใหม่อาจไม่รู้ แต่ผู้จับเวลาเก่าเกือบทั้งหมดคลิกที่ฟินน์เพื่อเข้าร่วมทีมตั้งแต่แรก

ในไม่ช้า ทีมงานยี่สิบคนก็รวมตัวกันอย่างเด็ดขาด ฟินน์ก็นำผู้คนโดยตรงและเคลื่อนย้ายไปยังหยานชิว หลังจากที่เทเลพอร์ตไป ฟินน์ก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา: “ให้ตายเถอะ วันนี้คนพวกนี้ต้องวุ่นวายแน่ ทำไมพวกเขาถึงมากันหมด? ให้ตายเถอะ มันจะเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เหรอถ้าฉันทุบอุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง?!” แม้ว่า Finn จะเริ่มการต่อสู้หลายครั้ง แต่เมื่อเห็นฉากนี้ทำให้เขาไม่สามารถช่วยตัวเองจากการสาปแช่งได้ ให้ตายเถอะ Blade’s Guild เกือบทั้งกิลด์มาแล้วเหรอ?

กลุ่มของฟินน์จำกัดจำนวนคนไว้ที่ 200 คน ซึ่งเขายังเพิ่มไม่ครบด้วยซ้ำ พวกเขามีคนเพียงประมาณ 180 คน โดยขณะนี้มีเพียง 80 คนเท่านั้นที่ออนไลน์ การกำจัดดันเจี้ยนที่กำลังดำเนินอยู่และการทำงานเฉยๆ ไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์เลยจริงๆ ที่สามารถรวบรวมทีมแบบนี้ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม Blade’s Guild นั้นเป็นพันธมิตรของเจ็ดกิลด์ ทุกกิลด์มีผู้เล่นเกือบเต็มแล้ว และตอนนี้ก็มีอย่างน้อยสี่ถึงห้าทีมที่นี่

เนื่องจากฟินน์และคนอื่น ๆ เพิ่งเคลื่อนย้ายออกไปและมีเวลาป้องกัน คนเหล่านั้นจึงไม่สามารถโจมตีพวกเขาได้ ดังนั้นผู้คนจึงเริ่มตะโกนทันที: “พี่ซอว์เยอร์ คุณกล้าเริ่มการต่อสู้ไหม! ฮ่าฮ่า การอัปเกรดอุปกรณ์ของคุณจะมีประโยชน์อะไร คุณกล้าเริ่มการสังหารหมู่ตอนนี้เลยเหรอ? แม้ว่าคุณจะเป็นที่หนึ่งในด้านอุปกรณ์ แต่เราก็ยังจะทำให้คุณคุกเข่า!”

ต้องบอกว่าผู้พัฒนาเกมนี้บางคนค่อนข้างน่ารังเกียจ เมื่อตัวละครชายเสียชีวิต เขาจะคุกเข่าลงบนพื้นโดยตรง ตัวละครหญิงดีขึ้นนิดหน่อย พวกเขาจะนอนราบกับพื้น นี่ค่อนข้างเป็นการเยาะเย้ย

“สาปแช่ง! ขอให้พวกเขาได้เห็นวิญญาณของเราเถิดพี่น้อง เพียงเล็งไปที่ Blade ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง เห็นเขาชัดเจนไหม? ฉันจะนับหนึ่ง สอง สาม แล้วเราจะโจมตีพร้อมกันเพื่อกวาดล้างเขาทันที!” เขาทำหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชามาโดยตลอด และเขาก็เริ่มตะโกนในช่องหลายภาษาทันที

คนในทีมล้วนแต่เป็นทหารผ่านศึกของกลุ่ม และพวกเขาไม่ได้สะทกสะท้านกับเหตุการณ์เช่นนี้ ทุกคนพร้อมที่จะเริ่มการต่อสู้ด้วยเสียงหัวเราะและเสียงแห่งความตื่นเต้น ขณะที่เขาออกคำสั่ง ฟินน์สั่งสอนทักษะที่ทรงพลังที่สุดของเขาที่เบลด ขณะที่เขาออกคำสั่ง ฟินน์ก็ปล่อยทักษะทันที บางทีมันอาจเป็นเพียงโชคร้ายของ Blade; การโจมตีของ Finn ส่งผลให้เกิดการโจมตีแบบคริติคอล ความเสียหายขนาดใหญ่ 15,000 เกิดขึ้นเหนือหัวของ Blade และสุขภาพของ Blade ก็ลดลงครึ่งหนึ่งแล้ว

เมื่อเห็นตัวเลขนี้ ฟินน์ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อย การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนหน้านี้ของเขานั้นสร้างความเสียหายได้ไม่เกิน 7,000 แม้จะโจมตีแบบคริติคอล ความแตกต่างนี้ใหญ่เกินไป เบลดล้มลงแทบจะในทันที แม้ว่าเบลดจะเป็นที่หนึ่งชั่วคราวในการจัดอันดับอุปกรณ์ แต่ก็ไม่มีช่องว่างระหว่างเขากับฟินน์มากนัก อุปกรณ์ของฟินน์ยังไม่สมบูรณ์ เขายังคงต้องปรับแต่งมันและทำการประเมินบางอย่างซึ่งโดยธรรมชาติแล้วจะไม่สูงเท่ากับของ Blade แต่มันก็ไม่สำคัญ แม้ว่าพวกเขาจะมีเพียงทีมเดียว แต่มีทีมยี่สิบคนที่มุ่งเป้าไปที่ Blade ด้วยกันและปลดปล่อยทักษะของพวกเขาทั้งหมดในคราวเดียว แม้แต่คนที่มีอุปกรณ์เหมือนพระเจ้าก็ยังต้องคุกเข่า

หลังจากที่เบลดเสียชีวิต ฟินน์และคนอื่นๆ ก็สูญเสียการป้องกันเนื่องจากเริ่มการโจมตี และทักษะจำนวนนับไม่ถ้วนจากอีกด้านหนึ่งก็ถูกกองทับลงบนพวกเขาทันที ฟินน์อยู่ได้ไม่นานก่อนที่เขาจะคุกเข่าลง แต่ไม่สำคัญว่าการเริ่มต้นการต่อสู้จะต้องดุเดือด! คิดมากทำไม! ภายในเวลาไม่นาน ทีมก็ฟื้นคืนชีพที่อาร์เรย์เทเลพอร์ตและเริ่มต่อสู้อีกครั้งทันที แม้ว่าพวกเขาจะตายอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีคนจากอีกด้านหนึ่งที่จะตายอยู่เสมอ

พวกเขาต่อสู้กันเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง และอุปกรณ์ของพวกเขาก็พังเกือบทั้งหมด ส่วนใหญ่พวกเขาถูกฆ่าบ่อยกว่า ในช่องหลายภาษา พวกเขาตัดสินใจล่าถอยและทุกคนก็ออกจากสถานที่เพื่อซ่อมอุปกรณ์ของตน รวมทั้งฟินน์ด้วย ช่วยไม่ได้ มันเป็นเกมแบบนี้ ไม่ว่าอุปกรณ์ของคุณจะเหมือนเทพแค่ไหน คุณไม่สามารถสู้คนเดียวเกินสามหรือสี่คนได้ เมื่อทีมหนึ่งปะทะกับสี่หรือห้าทีม พวกเขาก็พ่ายแพ้ทันที..