ตำนาน: ผู้ปกครองแห่งจิตวิญญาณ - บทที่ 101

บทที่ 101: บทที่ 78: คาถาทางจิต

ผู้แปล: 549690339

“หยุดนะ คุณมาจากเทพองค์ไหน แล้วมาโจมตีเพื่อนของฉันทำไม”

ด้วยเสียงที่ชัดเจนแต่ค่อนข้างไม่เป็นผู้ใหญ่ดังขึ้น ความผันผวนที่มองไม่เห็นก็กวาดไปทั่วสนาม ทันใดนั้น งูสีเงินบนท้องฟ้าก็ดูค่อนข้างเฉื่อยชาและกระสับกระส่าย

จิตวิญญาณของซุสตึงเครียด เขามองอย่างตั้งใจ และมีหญิงสาวผมสีแดงอายุประมาณสิบห้าหรือสิบหกปี

เมื่อปรากฏต่อหน้าเธอ ซุสไม่รู้สึกถึงความผันผวนอย่างรุนแรงของพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเห็นว่าเธอสามารถหยุดการโจมตีของเขาและทำให้พลังสายฟ้าของเขาอ่อนลงได้อย่างง่ายดายด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ก็เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เรียบง่าย

อย่างไรก็ตาม ซุสไม่มีความตั้งใจที่จะยอมแพ้ ใครจะรู้ว่าตัวตนของเขาเป็นความลับอะไร หรือมันจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่หรือไม่

“คุณเป็นใคร แล้วทำไมคุณถึงมายุ่งเรื่องของฉันกับเทพธิดาคนนี้”

ซุสก็รวบรวมกำลังอย่างลับๆ ล่อๆ หากเขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้แบบเผชิญหน้าได้ การลอบโจมตีอาจยังเป็นทางเลือกที่ดี

ตราบใดที่เขาสามารถบรรลุเป้าหมายได้ เขาก็ไม่สนใจว่าเขาจะใช้วิธีใด

อนิจจา ซุสไม่รู้ว่ากลยุทธ์ของเขาอาจมีประโยชน์บ้างในการต่อสู้กับเทพองค์อื่น แต่ก็ไม่ได้ผลกับศัตรูที่อยู่ตรงหน้าเขา

“ฉันคือแกรนด์ซอเซอร์เรสเฮคาเต้ และฉันก็เป็นเพื่อนของเซลีนด้วย เป็นเรื่องปกติที่ฉันจะห้ามคุณเมื่อคุณจับมือเพื่อนของฉัน”

เฮคาเต้ถูกลมพัดขึ้นไปในอากาศ เฝ้าดูความพยายามอันไร้ประโยชน์ของซุส

ก่อนหน้านี้เมื่อเซลีนพลาดการนัดหมาย เธอคิดว่าอาจมีบางอย่างเกิดขึ้นในวินาทีสุดท้าย แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือเพื่อนของเธอถูกโจมตีโดยเทพที่ไม่คุ้นเคย

และฝ่ายตรงข้ามก็ยังไม่มีท่าทีจะหยุด ภายใต้การรับรู้ทางจิตวิญญาณที่เหนือธรรมชาติของเธอ กลวิธีปกปิดพื้นฐานของซุสนั้นไม่มีความหมาย เฮคาเต้มองเห็นได้ทันทีว่าเขากำลังรวบรวมกำลัง

“นั่นก็คือคุณ ยังไม่วางแผนที่จะหยุดการโจมตีใช่ไหม? ในกรณีนั้น ฉันจะลงโทษคุณก่อน”

แผ่นศิลาเคยสอนเธอว่าผู้ที่ลงมือทำก่อนย่อมได้เปรียบ เนื่องจากคู่ต่อสู้ไม่ยุติธรรม เธออาจจะปราบเขาก่อนก็ได้!

บูม—!

ขณะที่เฮคาเต้กำลังจะลงมือ เธอก็ได้รับบทเรียน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้เรียนรู้แก่นแท้ของการโจมตีก่อนจากแผ่นหิน เนื่องจากการโจมตีครั้งแรกที่แท้จริงนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนความยินดีกับคู่ต่อสู้

ต่อหน้าเธอ ซุสได้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดเมื่อรู้ว่าแผนการของเขาถูกค้นพบ ด้วยการระเบิดอันดัง สายฟ้าก็พุ่งตรงผ่านตำแหน่งของเฮคาเต้

เขาต้องประหลาดใจที่การโจมตีของเขาเพียงผ่านไปโดยไม่รู้สึกว่าโดนเป้าหมายเลย

“เฮอะ สัตว์เดรัจฉานไร้วัฒนธรรม พวกเจ้ารู้แค่ว่าต้องตรงไปตรงมาเท่านั้นหรือ?”

ด้วยการเยาะเย้ยศัตรู ร่างที่แท้จริงของเฮคาเต้ก็ค่อย ๆ โผล่ออกมาทางซ้าย เหล่าเทพผู้สัมผัสได้ถึงพลังอันศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นเป็นเช่นนั้น คาถาภาพลวงตาธรรมดา ๆ ก็สลัดมันทิ้งไปโดยสิ้นเชิง

ซุสยกนิ้วขึ้นอย่างใจเย็น รู้สึกถึงวิกฤติที่เกิดขึ้นต่อหน้าเฮคาเต้ทันที

“ระเบิดพลังจิต!”

ในช่วงที่เธอเดินทางข้ามทะเลอันยิ่งใหญ่ Hecate ไม่เคยหนีจากการปะทะกับเหล่าเทพ เธอพบว่าในระดับพลังเวทย์มนตร์ของเธอในปัจจุบัน มันยากที่จะเทียบได้กับพลังศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าที่แท้จริงผู้ครอบครองอำนาจ เพียงการรับบัพติศมาด้วยกฎนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้เวทมนตร์ของเธอระเหิดได้อย่างเต็มที่ และเธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรในครึ่งหลังของขั้นตอนนี้

ดังนั้นเฮคาเต้จึงเลิกพยายามทำร้ายเทพด้วยองค์ประกอบและพลังเวทย์มนตร์ เมื่อเปรียบเทียบกับเทพเจ้าแล้ว พลังจิตที่แข็งแกร่งของเธอนั้นได้เปรียบอย่างแท้จริง และโดยพื้นฐานแล้วเธอก็เทียบเท่ากับเทพ โดยไม่มีความแตกต่างในคุณภาพของวิญญาณของเธอ

บนพื้นฐานนี้ ด้วยความช่วยเหลือจากหนังสือเวทมนตร์ทั้งหมด เธอได้สร้างเวทมนตร์ทางจิตมากมาย การจู่โจมโดยตรงที่บริสุทธิ์และโดยตรงต่อวิญญาณนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ล้มเหลวต่อพระเจ้า

“ฮึ-“

เสียงครวญครางเงียบๆ แม้ว่าเขาจะกลายร่างเป็นสายฟ้าและออกจากจุดเดิมในทันที แต่ Zeus ก็ยังคงถูกโจมตีอย่างหนักในวินาทีต่อมา

เมื่อรู้สึกว่าไม่มีแรงใดๆ เข้ามาใกล้เขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะถูกค้อนขนาดยักษ์ฟาดไปที่หัว ทำให้เทพหนุ่มสับสนไปหมด

“จิตใจวุ่นวาย!”

ปลายนิ้วของเธอยกขึ้นเล็กน้อย ร่ายมนต์สะกดอีกครั้ง ก่อนที่จะฟื้นตัว Zeus รู้สึกว่าโลกรอบตัวเขาสับสนในทันที ทุกอย่างกลับหัวกลับหาง และเขาไม่สามารถแยกแยะได้อีกต่อไปว่าทางไหนเป็นทางไหน

ให้ตายเถอะ คุณคิดว่ากลอุบายแบบนี้จะเอาชนะฉันได้เหรอ!”

ด้วยความรู้สึกโกรธเล็กน้อยจากการโจมตีติดต่อกัน เทพองค์ใหม่ประสบความพ่ายแพ้ครั้งแรกในชีวิตศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าซุสไม่ใช่คนประเภทที่จะถอยกลับจากสิ่งนี้ มันทำหน้าที่เติมพลังให้กับความตั้งใจของเขาที่จะต่อสู้ให้มากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้นเขาจึงปลดปล่อยพลังทั้งหมดของเขาและกลับคืนสู่รูปแบบสายฟ้าที่แท้จริงของเขา

“บูม-!”

แสงสีเงินระเบิด และซุสก็ไม่รักษารูปร่างของมนุษย์อีกต่อไป เขารวมตัวเข้ากับสายฟ้าที่แผ่กว้าง ซึ่งเป็นอำนาจที่ได้รับจากความเป็นพระเจ้าของเขา

แม้ว่าสิ่งนี้จะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่กระจัดกระจายของเขาไปอย่างมาก แต่ในสถานะนี้ แม้ว่าคู่ต่อสู้จะยังคงโจมตีแปลก ๆ เหล่านั้นเพื่อรบกวนเขา พวกเขาก็จะถูกฟ้าผ่าให้อ่อนแอลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ช่างน่ารำคาญจริงๆ” เธอพึมพำพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย และพบว่าสถานการณ์ค่อนข้างยุ่งยาก แม้ว่าเวทมนตร์คาถาจะทำให้เธอสามารถต่อสู้กับเทพที่แท้จริงที่อ่อนแอกว่าได้ แต่นั่นคือทั้งหมดที่มี

โชคดีที่การพึ่งพาของเธอในการเดินในทะเลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่เคยมีเพียงแค่ความแข็งแกร่งส่วนตัวของเธอเท่านั้น

เมื่อเปรียบเทียบกับการพึ่งพาพลังของแต่ละบุคคล การหาวิธียืมพลังจากภายนอกได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโลกธรรมชาติหรือสิ่งมีชีวิตระดับสูง นั่นคือที่มาที่แท้จริงของพลังของพ่อมด

“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงพบว่าเทพเหล่านี้น่ารำคาญ โดยเฉพาะเทพที่ทรงพลังโดยธรรมชาติ—แม้ว่าตอนนี้ฉันจะคิดเกี่ยวกับมันแล้ว ด้วยความเป็นเทพที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ทำไมพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาถึงอ่อนแอนัก?”

เธอเม้มริมฝีปากของเธออย่างงุนงงเล็กน้อย เฮคาเต้พลิกเปิดหนังสือที่เธอถืออยู่ในมือซ้ายเบาๆ แล้วหันไปดูหน้าหนังสือที่มีภาพวาดดวงดาวและดวงอาทิตย์

นั่นคือแก่นแท้ของเศษเสี้ยวของดวงอาทิตย์ที่เธอหยิบขึ้นมาระหว่างการเดินทาง เฮคาเต้ใช้ชิ้นส่วนนั้นเป็นแกนกลางในการสร้างฉาก ‘อดีต’ ขึ้นใหม่ผ่านพิธีกรรม จากนั้นจึงปิดผนึกมันไว้ในหนังสือกฎทั้งหมดในมือของเธอได้สำเร็จ

ดังนั้นสิ่งที่ควรจะเป็นพิธีกรรมที่ซับซ้อนและยาวนานจึงกลายเป็นคาถาคาถาที่พร้อมใช้ตามต้องการ ซึ่งเป็นเพียงการใช้สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์ในมือของเธออย่างชาญฉลาดเพียงเล็กน้อย

หน้าหนังสือติดไฟโดยไม่มีไฟ และวินาทีต่อมา ท้องฟ้าก็สว่างไสว ราวกับว่าดวงอาทิตย์สองดวงได้ขึ้นพร้อมกัน ดวงอาทิตย์ลวงตาอีกดวงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเหนือมหาสมุทร

“พระอาทิตย์เมื่อวาน·พระอาทิตย์ตกของวันอันยิ่งใหญ่”!

ตรงข้ามกับเฮคาเต้ ซุสซึ่งกลายร่างเป็นฟ้าร้อง รู้สึกถึงพลังที่แทบจะต้านทานไม่ได้ ซึ่งเป็นเสียงสะท้อนของพลังของไฮเปอเรียน เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์

ด้วยความแข็งแกร่งหนึ่งในสามของเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ที่จุดสูงสุดของเขา ซึ่งยืมมาจาก ‘อดีต’ ด้วยพลังของสิ่งประดิษฐ์อันศักดิ์สิทธิ์และพิธีกรรม นี่ไม่ใช่สิ่งที่ Zeus ที่เพิ่งเกิดใหม่เพียงทศวรรษเดียวเท่านั้นที่จะโต้แย้งได้

“ไม่มีทางเลือกแล้วเหรอ? ฉันเกลียดคุณเทพผู้หุนหันพลันแล่นที่ใช้ความรุนแรงเพียงแค่หมวก~”

ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย Hecate ชี้นิ้ว และดวงอาทิตย์อันยิ่งใหญ่ที่ลวงตาก็ลงมาทันที เทพที่อยู่ตรงหน้าเธอยังคงปล่อยฟ้าร้องอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็ไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าดวงอาทิตย์ลวงตา

ดูเหมือนเป็นเวลานาน แต่ในความเป็นจริง ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้จนถึงตอนนี้ เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้น ขณะที่เฮคาเต้กำลังจะทุบมันจนพัง เซลีนซึ่งในที่สุดก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พูดออกมาอย่างเร่งด่วน:

“เดี๋ยวก่อน เฮคาเต้ เขาคือซุส!”

“อา?”

มือขวาของเธอสั่น และดวงอาทิตย์ลวงตาก็ตกข้างซุสลงสู่มหาสมุทร น้ำทะเลหลายพันล้านตันระเหยไปในทันที สัตว์ทะเลเดดซีจำนวนมากลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ และจากนั้นก็มีกลิ่นไหม้เกรียมเกิดขึ้น

แต่ในขณะนี้ เฮคาเต้ไม่สนใจเรื่องเหล่านี้น้อยลงเลย เธอมองดูเทพที่อยู่ข้างหน้าเธอแล้วถามอย่างรวดเร็ว:

“คุณคือซุส?”

“ฉัน. มีปัญหาเหรอ?”

ด้วยความหวาดกลัวจากดวงอาทิตย์ที่พลาดไปอย่างหวุดหวิด Zeus จึงคิดว่าการลงทุนครั้งนี้จะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีเหตุการณ์พลิกผัน

ผู้หญิงที่น่าเกรงขามซึ่งมาทีหลังดูเหมือนจะไม่กลัวชื่อของเขามากเท่ากับเทพธิดาแห่งดวงจันทร์

“อืม ไม่มีปัญหา หรือค่อนข้างจะดีกว่านี้” เธอพูดด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ มองที่ Zeus แล้วพูดช้าๆ:

“ฉันจับตาดูใครบางคนมานานแล้ว การได้เจอคุณที่นี่ดูเหมือนจะพิสูจน์ได้ว่าโหราศาสตร์ของฉันค่อนข้างมีประสิทธิภาพเลย~”