การฝึกฝน: เริ่มต้นจากการทำให้เทคนิคศิลปะการต่อสู้เป็นเรื่องง่ายขึ้น - บทที่ 92

บทที่ 92:1 ต้องการท้าทายความอ่อนแอของฉัน

ผู้แปล: บรรณาธิการแปลเรือมังกร: แปลเรือมังกร

Jie Jindong แม้ว่าจะไม่โดดเด่นเท่า Chen Fei แต่ก็ยังมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ

สถานการณ์เมื่อวานนี้น่าทึ่งมากสำหรับเจียจินตง เขากล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าและพึ่งพาเทคนิคการเคลื่อนไหวของเขาเพื่อล่อศัตรู ช่วยชีวิตศิษย์คนอื่น ๆ และนักรวบรวมสมุนไพร

ความกล้าหาญและความรับผิดชอบดังกล่าวจะได้รับรางวัลจากนิกายอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่า Jie Jindong จะไม่ทำอะไร แต่ผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ทันทีที่ Jie Jindong เลือกที่จะยืนขึ้น ผลลัพธ์ก็ไม่สำคัญ

แน่นอนว่าเครดิตที่แท้จริงในครั้งนี้ยังคงเป็นของ Chen Fei และ Guo Linshan หากไม่มีพวกเขา เจียจินตงคงดึงดูดสัตว์ประหลาดได้มากกว่า 50 ตัว

ด้วยเทคนิคการเคลื่อนไหวของ Jie Jindong เขาคงหนีไม่พ้น เขาคงจะถูกปีศาจกลืนกินแล้วซึ่งจะไล่ตามสาวกคนอื่น ๆ และคนเก็บสมุนไพรต่อไป

ในท้ายที่สุด เจียจินตงก็ต้องตาย และจะไม่มีใครรอดพ้นจากสถานการณ์เลวร้ายนี้ได้

“เจีย จินตง การกระทำที่กล้าหาญของคุณในยามอันตรายเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง” สังฆราชในห้องโถงซ่างกงกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

“ขอบคุณ ลุงนักรบจาง” เจีย จินตงตอบพร้อมกับก้มศีรษะ ความเย่อหยิ่งก่อนหน้านี้ของเขาหายไป วันนั้นมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย และ Xie Jindong ยังคงพยายามประมวลผลมันทั้งหมด

“กัว หลินซาน เฉินเฟย!”

“ที่นี่!” เฉินเฟยประสานมือของเขา

“คุณทั้งสองคนไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเองในช่วงเวลาวิกฤติและช่วยชีวิตสาวกและผู้รวบรวมสมุนไพรจำนวนมาก ตามกฎของนิกาย เฉินเฟยจะได้รับรางวัลเป็นคะแนนการมีส่วนร่วมแปดพันคะแนน และกัว หลินซานจะได้รับคะแนนการมีส่วนร่วมห้าพันคะแนน!” มัคนายกห้องโถงซ่างกงประกาศด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

“ขอบคุณ ลุงนักสู้จาง!” เฉินเฟยและกัว หลินซานมองหน้ากันและยิ้ม

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน นี่คือกฎของนิกาย” สังฆราชห้องโถงซ่างกงโบกมือ “ถูกไล่ออก”

เฟิงซิ่วผูมองดูศิษย์สองคนของเขาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาอย่างพึงพอใจ เขาแปลกใจเป็นพิเศษที่ Guo Linshan มีหินถ่ายรูปติดตัวไปด้วย

อย่างไรก็ตาม เฟิงซิ่วผูลืมไปแล้วเมื่อกัว หลินชานบันทึกวิดีโอของเขาซึ่งแนะนำเขาเกี่ยวกับสิ่งสำคัญของเทคนิคการเชื่อมต่อต้นกำเนิด

สองชั่วโมงต่อมา ที่บ้านของกัว หลินชาน

“พี่กัว คุณมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิธีใช้คะแนนสมทบบ้างไหม?” เฉินเฟยถามขณะจิบชาเย็น

“คุณไม่ได้ถามฉันเกี่ยวกับเงื่อนไขในการเข้าถึงห้องสมุด Sutra ของนิกายเหรอ? ด้วยคะแนนการมีส่วนร่วม 8,000 คะแนน คุณทะลุเกณฑ์มานานแล้ว คุณสามารถใช้พวกมันเพื่อแลกเปลี่ยนเทคนิคการเพาะปลูกได้แล้ว หากคุณไม่ต้องการเทคนิคการเพาะปลูก ในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุ คุณสามารถแลกเปลี่ยนเป็นสูตรยาได้” กัว หลินชาน ตอบด้วยรอยยิ้ม “นอกเหนือจากห้องสมุด Sutra แล้ว ห้องเก็บสมบัติยังไม่มีเกณฑ์กำหนด คุณสามารถเยี่ยมชมได้อย่างอิสระ พวกเขามีไอเทมมากมายเช่นยาและอาวุธที่คุณสามารถแลกเปลี่ยนได้”

ดวงตาของเฉินเฟยเป็นประกาย เขาไม่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าสำหรับเทคนิคการเพาะปลูก สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการไปถึงระดับที่สี่ของเทคนิคการเชื่อมต่อต้นกำเนิดและก้าวไปสู่ขอบเขตการชำระล้างไขกระดูกโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้ลดความสนใจของ Chen Fei ในการเยี่ยมชมห้องสมุด Sutra

เขาต้องการที่จะขยายขอบเขตอันไกลโพ้นของเขาและดูว่ามีเทคนิคการฝึกฝนประเภทใดบ้าง นอกจากนี้ หากเขาพบเทคนิคการเพาะปลูกที่ดี เขาก็สามารถแลกเปลี่ยนได้เมื่อจำเป็น

ก่อนหน้านี้ เขาไม่สามารถแม้แต่จะเข้าไปในห้องสมุด Sutra ได้เนื่องจากคะแนนการมีส่วนร่วมของเขายังไม่ถึง 1,000

“โอ้ ยังไงก็ตาม พี่กัว เพราะว่าเราเจอสิ่งชั่วร้ายในครั้งนี้ เรายังทำภารกิจได้รับสมุนไพรไม่ถึงครึ่งเลย” เฉินเฟยกล่าวอย่างกะทันหัน

“แน่นอน เราต้องหาทางไปต่อ” กัว หลินซานตอบ รอยยิ้มของเขาหายไปและเขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นิกายดาบเมฆาอมตะไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา พวกเขาสนใจแต่ผลลัพธ์เท่านั้น พวกเขาอาจจะส่งผู้เฒ่าไปกำจัดความชั่วร้ายบนภูเขานั้นและดำเนินภารกิจสมุนไพรต่อไป”

เฉินเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย นิกายดาบเมฆาอมตะนั้นแข็งแกร่งอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม เขาเข้าใจว่านิกายนี้เป็นเจ้าเหนือหัว และความแข็งแกร่งกำหนดทัศนคติ แม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“งั้นเราไปกันเลยไหม?”

“ไม่ ปล่อยศิษย์คนอื่นๆ ไปเถอะ” กัว หลินซานตบไหล่เฉินเฟย “น้องชาย ใช้เวลานี้เพื่อมุ่งเน้นไปที่การปลูกฝังเทคนิคการเชื่อมต่อต้นกำเนิดและเข้าถึงขอบเขตการชำระล้างไขกระดูกโดยเร็วที่สุด ด้วยระดับพลังยุทธ์ที่สูงเท่านั้น คุณจึงมั่นใจในความปลอดภัยของคุณได้ บางครั้งคุณไม่สามารถหลบหนีเพียงเพราะคุณต้องการ”

กัว หลินซานกังวลว่าเฉินเฟยจะพึ่งพาเทคนิคการเคลื่อนไหวของเขามากเกินไป และละเลยขอบเขตศิลปะการต่อสู้ของเขา เทคนิคการเคลื่อนไหวสามารถช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาส่วนใหญ่ได้ แต่มีบางสถานการณ์ที่แม้แต่พวกเขาก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยชีวิตคนได้

“ไม่ต้องกังวลพี่ชายอาวุโส ฉันเข้าใจ” เฉินเฟยตอบด้วยรอยยิ้ม เขาไม่เคยหย่อนยานในการแสวงหาการพัฒนาขอบเขตการเพาะปลูกของเขา

สองชั่วโมงต่อมา เฉินเฟยมาถึงเมืองเมฆาอมตะและพบกับจี้เต๋อเฟิง

“เมื่อเร็ว ๆ นี้คุณไปอยู่ที่ไหนมา? ทำไมคุณดูโทรมไปหน่อย” เฉินเฟยถามโดยสังเกตเห็นรอยคล้ำใต้ตาของฉือเต๋อเฟิง ดูเหมือนเขาจะไม่สบายเมื่อเทียบกับครั้งล่าสุดที่พวกเขาพบกัน

“ฉันสบายดี. เนื่องจากคุณไม่ได้อยู่ใกล้ๆ และไม่มียาขาย ฉันจึงเดินไปรอบๆ เมืองเมฆาอมตะ ฉันเคยไปที่ศาลาแดงเมาสองสามครั้งด้วยซ้ำ จุ๊จุ๊ มันเหนื่อยมาก” จี้เต๋อเฟิงหาวและแสดงความคิดเห็น พร้อมลูบเอวราวกับว่าเขาทนไม่ไหวแต่ก็ยังอยากจะไปอีกครั้ง

เฉินเฟยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขาตระหนักว่า Chi Defeng ใช้เวลาดื่มด่ำกับความสุขในเมือง ไม่น่าแปลกใจที่เขาดูเหนื่อยล้า

“ใจเย็นๆ” เฉินเฟยแนะนำ

“ฉันสบายดี” จี้เต๋อเฟิงโบกมือลา “คุณไม่ได้บอกฉันเลยว่าทำไมคุณถึงกลับมาเร็วขนาดนี้ คุณประสบปัญหาขณะรวบรวมสมุนไพรหรือเปล่า?”

“เราวิ่งเข้าไปใน Divine Flame Sect และความชั่วร้าย” เฉินเฟยอธิบาย “ฉันสงสัยว่า Divine Flame Sect อาจเตรียมภัยพิบัติเป็นรูปแบบหนึ่งของการแก้แค้น”

“นิกายเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์?” จี้เต๋อเฟิงขมวดคิ้ว พยายามนึกถึงว่าเขาเคยได้ยินชื่อนี้มาจากไหน สักพักมันก็ดังขึ้นในใจของเขา “อา นิกายที่ขัดแย้งกับนิกายดาบเมฆอมตะอยู่เสมอ คุณทำให้พวกเขาขุ่นเคืองอย่างไร”

“ฉันไม่รู้. บางทีอาจเป็นเพราะว่าเรากำลังช่วยเหลือนิกายดาบเมฆอมตะในการรวบรวมสมุนไพร” เฉินเฟยยักไหล่

Divine Flame Sect เป็นที่รู้จักในเรื่องการกระทำที่คาดเดาไม่ได้ อาจเป็นไปได้ว่ามีคนอื่นกระทำความผิดและใส่ร้ายนิกาย Divine Flame Sect ไม่ว่านิกายนี้จะได้รับชื่อเสียงฉาวโฉ่ และไม่มีใครเชื่อเรื่องราวของพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะอธิบายก็ตาม

“พรุ่งนี้เราจะยังคงปรับแต่งยาต่อไปหรือไม่?” จี้เต๋อเฟิงถาม เขาพบว่าศาลาแดงขี้เมาเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยม พร้อมด้วยอาหารอร่อย การต้อนรับที่อบอุ่น และผู้หญิงที่มีเสน่ห์ ข้อเสียเปรียบเพียงอย่างเดียวคือต้นทุน

“ใช่ เราจะกลั่นยาเม็ดยาลอยนิรันดร์ต่อไปในวันพรุ่งนี้ เพียงแค่นำส่วนผสมยามาตามปกติ” เฉินเฟยยืนยัน

จี้เต๋อเฟิงพยักหน้า การสกัดยาบนภูเขาไม่สะดวก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะทำมันตั้งแต่วันถัดไปเป็นต้นไป เขาได้รับเงินค่อนข้างมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นเขาจึงสามารถผ่อนคลายได้สักหน่อย

ทั้งสองคุยกันสักพักก่อนที่เฉินเฟยจะออกจากลานบ้านและมุ่งหน้าไปที่ร้านขายยา

“ท่านครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม?” เจ้าของร้านเข้าหาเฉินเฟยด้วยความกระตือรือร้น

“คุณมียาเม็ดใดบ้างที่สามารถปกป้องเส้นลมปราณของร่างกายได้?” เฉินเฟยถาม

“แน่นอน แต่มันค่อนข้างแพง” เจ้าของร้านตอบพร้อมพยักหน้า

“ราคาเท่าไหร่?” เฉินเฟยถามอย่างสงสัย

“อันละสามร้อยตำลึง!

ครั้งที่สอง

ขณะที่เจ้าของร้านพูด เขาก็เดินไปที่ชั้นวางและหยิบขวดยาออกมาวางไว้ข้างหน้าเฉินเฟย

คิ้วของเฉินเฟยกระตุกเล็กน้อยขณะที่เขาตรวจดูเม็ดยาบนเคาน์เตอร์ เขาไม่คิดว่ามันจะแพงขนาดนี้

“คุณช่วยเปิดมันให้ฉันได้กลิ่นหน่อยได้ไหม” เฉินเฟยร้องขอ

“แน่นอน.”

เจ้าของร้านพยักหน้าแล้วเปิดจุกขวดยา กลิ่นหอมอ่อนๆ ของยาหอมฟุ้งไปในอากาศ จมูกของเฉินเฟยกระตุกในขณะที่เขาวิเคราะห์ส่วนผสมยาที่ประกอบเป็นยาอย่างรวดเร็ว

เมื่อสังเกตสีหน้าของเฉินเฟย เจ้าของร้านก็อดยิ้มไม่ได้ “ดูเหมือนว่าคุณจะมีความรู้ในสาขานี้ ข้อกำหนดสำหรับส่วนผสมยาที่ใช้ในการปรับแต่งยาเม็ดนี้มีสูงมาก ไม่ต้องพูดถึงส่วนผสมเสริม แม้แต่ส่วนผสมหลัก หญ้าดาราสวรรค์ ก็ยังต้องได้รับการบ่มมานานกว่ายี่สิบปี”

เฉินเฟยพยักหน้า กลิ่นหอมของยานั้นมีร่องรอยของหญ้าดาวสวรรค์จริงๆ และคุณสมบัติทางยาของมันก็มีพลังมาก เขาไม่สามารถระบุได้ว่ามันเติบโตเต็มที่มายี่สิบปีแล้วหรือไม่ แต่แน่นอนว่าต้องใช้เวลาพอสมควร

“มีคนไม่มากที่ซื้อยาเม็ดนี้” เฉินเฟยกล่าว

“นั่นเป็นเรื่องจริง ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกใช้ยาที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งภายใน เช่น ยาเม็ดลอยนิรันดร์ หรือยาเม็ดบินขึ้น” เจ้าของร้านยืนยันโดยไม่ปิดบังอะไร

“เอาล่ะ ฉันจะลองดู” เฉินเฟยกล่าว แต่เขาไม่ได้ทำการซื้อในทันที

“คุณสามารถตรวจสอบร้านขายยาอื่นๆ ได้เช่นกัน ราคาของฉันต่ำที่สุดแล้ว” เจ้าของร้านแนะนำโดยตระหนักถึงการพิจารณาของเฉินเฟย

เฉินเฟยไม่ตอบสนองในทันที เขาจับมือแล้วออกจากร้านขายยา

เขาใช้เวลาไปเยี่ยมชมร้านขายยารายใหญ่หลายแห่งในเมืองเมฆาอมตะ เจ้าของร้านคนแรกพูดความจริง—ราคาของพวกเขาต่ำที่สุดจริงๆ

ในท้ายที่สุด เฉินเฟยซื้อขวดหนึ่งขวดและตัดสินใจว่าจะไม่กลับไปที่นิกายทันที แต่เขาเลือกที่จะอยู่ในลานภายในเมืองเมฆาอมตะแทน

ตกกลางคืน.

“เราไปกันเลยไหม?” จี้เต๋อเฟิงซึ่งมีรอยคล้ำใต้ตามองที่เฉินเฟยและเชิญเขาอย่างอบอุ่น

“สถานที่แบบนั้นอาจเป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณและกำลังใจของคนๆ หนึ่งได้ มันเป็นความท้าทายที่สำคัญต่อการเพาะปลูกศิลปะการต่อสู้” เฉินเฟยตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ดังนั้น?” จี้เต๋อเฟิงเร่งเร้า

“ดังนั้น ฉันต้องการที่จะเผชิญหน้ากับความอ่อนแอของฉัน” เฉินเฟยกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว

“เอาล่ะ ไปกันเลย!” Chi Defeng หัวเราะอย่างเต็มที่

พวกเขาทั้งสองเดินผ่านถนนที่พลุกพล่านของเมืองอมตะเมฆาจนกระทั่งพวกเขาไปถึงร้านอาหารที่สว่างไสว สถานที่นี้เต็มไปด้วยผู้คนเข้าออก และผู้หญิงที่ทางเข้าก็ต้อนรับแขกด้วยท่าทางที่เย็นชา

แทนที่จะทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม ผู้หญิงกลับมีสีหน้าเย็นชาและสังเกตการมาถึงของแขก

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ดูเหมือนจะทำให้ผู้คนรอบข้างตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งจ้องมองดูรูปร่างอันน่าหลงใหลของผู้หญิงเหล่านี้อย่างไร้ยางอาย โดยแทบจะไม่สามารถจำกัดความกระตือรือร้นของพวกเธอได้

“นี่เป็นเพียงทางเข้า ความท้าทายอยู่ข้างใน” จี้เต๋อเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มขณะที่เขาพาเฉินเฟยเข้าไปในศาลาแดงขี้เมา

“นายน้อย ทางนี้ ได้โปรด” เสียงแผ่วเบาดังมาถึงหูพวกเขา

ความสนุกสนานยังคงดำเนินต่อไป และสายลมอันอบอุ่นก็พัดพานักท่องเที่ยวที่มึนเมาและเปลี่ยนหางโจวให้เป็นเปียนโจว

สี่ชั่วโมงต่อมา ด้วยความรู้สึกสดชื่น เฉินเฟยก็กลับมาที่ลานบ้านที่เขาเช่า

ล้มเหลวในการเผชิญหน้ากับความอ่อนแอของเขา เขาจึงตัดสินใจปลูกฝังต่อ

เขากลืนยารักษา Meridian ที่เขาซื้อไว้ก่อนหน้านี้ เม็ดยาละลายในปากของเขา ปล่อยพลังงานเย็นที่แผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา เฉินเฟยหลับตาและเริ่มหมุนเวียนเทคนิคการเชื่อมต่อต้นกำเนิดอย่างแรง

การเพิ่มความชำนาญของเทคนิคการเชื่อมต่อต้นกำเนิดไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถทำได้ในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม เขาสามารถด้นสดได้ e ความเชี่ยวชาญของ Meridian Protecting Pill

ไม่ว่าเขาจะสำเร็จการฝึกสำเร็จหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของยาเม็ดนี้