การฝึกฝน: เริ่มต้นจากการทำให้เทคนิคศิลปะการต่อสู้เป็นเรื่องง่ายขึ้น - บทที่ 81

บทที่ 81: กระโจน

ผู้แปล: บรรณาธิการแปลเรือมังกร: แปลเรือมังกร

เฉินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มขณะที่ใบหน้าของเขาสว่างขึ้น อย่างไรก็ตาม แทนที่จะพักผ่อน เขากลับไปที่ค่ายทันทีและนั่งลงเพื่อฝึกฝนต่อไปโดยนั่งไขว่ห้าง

เขายังคงมีงานฝึกฝนความแข็งแกร่งภายในที่ยังไม่เสร็จ และจำเป็นต้องปรับปรุงความสามารถของเขาในระดับที่สองของวิชาเชื่อมต่อต้นกำเนิด การพักผ่อนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขา เขาตั้งใจว่าจะอยู่ทั้งคืน

เช้าวันรุ่งขึ้น คนเก็บสมุนไพรกลับมาทำงานต่อ และเหล่าสาวกก็แยกย้ายกันไปดูแลพวกเขา เช้าผ่านไปโดยไม่มีเหตุการณ์อื่นใด และตอนนี้ค่ายพักก็เต็มไปด้วยรถม้าที่เต็มไปด้วยสมุนไพรที่คัดสรรมาสดใหม่ สิ่งสำคัญคือต้องขนส่งพวกเขากลับไปยัง Immortal Cloud City โดยทันทีเพื่อดำเนินการ

นิกายดาบเมฆาอมตะมีจุดยืนที่เหนือกว่านิกายอื่น ๆ เมื่อพูดถึงการกลั่นยา ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับส่วนผสมยา การขนส่งสมุนไพรในแต่ละวันจึงมีความจำเป็น

“ลุงนักสู้ Qian ทุกอย่างพร้อมแล้ว” Guo Linshan เข้าหา Qian Lindu และกระซิบ

“อืม คุณอยู่ที่นี่ และฉันจะพาสาวก Marrow Tempering สองสามคนไปด้วย” Qian Lindu พยักหน้า

เมื่อวานนี้ เฉียน ลินตู้ ได้ไปเยี่ยมนิกายอื่นเพื่อสอบถาม ปรากฎว่าไม่ใช่ทุกนิกายที่ถูกโจมตี มีเพียง Big Dipper Tower เท่านั้นที่ถูกโจมตี

เนื่องจากเทคนิคการบ่มเพาะของพวกเขา สมาชิกของ Big Dipper Tower จึงเป็นที่รู้จักในเรื่องนิสัยที่ร้อนแรง มีเพียงผู้ที่ไปถึงอาณาจักรสูงเท่านั้นที่สามารถทำให้พวกเขาสงบได้

ดังนั้น Big Dipper Tower จึงได้ทำการค้นหาผู้โจมตีอย่างเข้มข้นแล้ว พวกเขามุ่งมั่นที่จะค้นหาพวกเขาและอาจป้องกันไม่ให้สมาชิกของ Divine Flame Sect ปรากฏตัวในวันนั้น

ใช้เวลาในการชงชาน้อยกว่ารถม้าก็เตรียมและออกเดินทาง เฉียน ลินตู้ ซึ่งปลอมตัวเป็นศิษย์ธรรมดาจึงเข้าร่วมขบวนรถ ในขณะที่คนอื่นๆ ในค่ายก็ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติต่อไป หนึ่งชั่วโมงต่อมา นกพิราบส่งสารก็มาถึง และกัว หลินซานก็ดึงข้อความที่ติดอยู่ที่เท้าของมันกลับมา

“ศิษย์พี่กัว สถานการณ์เป็นอย่างไร?” สาวกสองสามคนอดไม่ได้ที่จะล้อมรอบเขาและอยากรู้ข่าว

“ขบวนรถมาถึงเมืองเมฆาอมตะอย่างปลอดภัยแล้ว ลุงเฉียนและคนอื่น ๆ ไม่พบการโจมตีใด ๆ เลย” กัว หลินซาน เงยหน้าขึ้นและตอบ

“ดีแล้ว.” เหล่าสาวกพยักหน้า อารมณ์ของพวกเขาปะปนกัน

ในด้านหนึ่ง พวกเขาหวังว่าการโจมตีดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะมีผู้เสียชีวิต ในทางกลับกัน พวกเขาแอบหวังว่าสมาชิกของ Divine Flame Sect จะมาต่อไป เมื่อเฉียนลินตู้ปรากฏตัว อาจมีโอกาสที่จะล้างแค้นให้กับสาวกสองคนที่เสียชีวิตไปเมื่อวันก่อน

เฉินเฟยบังเอิญอยู่ใกล้ๆ และสังเกตเห็นท่าทีสงบของกัว หลินซานและคนอื่นๆ ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น

หนึ่งวัน สองวัน สามวัน. พริบตาเดียวก็ผ่านไปสามวันแล้ว ภารกิจรวบรวมดำเนินไปอย่างราบรื่น และขบวนรถไม่ถูกโจมตีอีกต่อไป ทุกอย่างดูเหมือนจะกลับมาเป็นปกติ

เฉียนลินตู้ได้ถามนิกายอื่น ๆ และพวกเขาไม่พบการโจมตีอีกต่อไป ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ในวันแรกเป็นเพียงการโจมตีอย่างไม่คาดคิดของ Divine Flame Sect

อย่างไรก็ตาม Divine Flame Sect เป็นที่รู้จักในด้านกลยุทธ์ดังกล่าว ซึ่งมักจะทำการโจมตีอย่างกะทันหันโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า บางครั้ง เมื่อสถานการณ์ดูเอื้ออำนวย และคนอื่นๆ คาดหวังว่านิกายเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์จะไล่ตามพวกเขาต่อไป พวกเขาก็ถอนตัวออกไปทันที

ในเวลาอื่น แม้ว่าพวกเขาจะจวนจะพ่ายแพ้ แต่ Divine Flame Sect ก็ยังบ้าดีเดือดและส่งสมาชิกของพวกเขาไปสู่ความตาย มันค่อนข้างน่างงงวย

ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน เฉินเฟยนั่งสมาธิโดยกอดอก

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกหนาวที่แขนของเขา เมื่อลืมตาขึ้น เขาตรวจดูแขนของเขาและสังเกตเห็นว่าเนื้อตายเน่าเริ่มเคลื่อนไหว

เฉินเฟยลุกขึ้นยืนและสำรวจสภาพแวดล้อมของเขา แต่ไม่มีอะไรผิดปกติ และกิจกรรมเนื้อตายเน่ายังคงต่ำ อย่างไรก็ตาม เฉินเฟยไม่คุ้นเคยกับปรากฏการณ์ดังกล่าว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจรายงานเรื่องนี้

“พี่อาวุโสกัว?” เฉินเฟยเดินไปที่กัว หลินชาน และร้องออกมาด้วยเสียงต่ำ

“มีอะไรผิดปกติ?” Guo Linshan ลืมตาขึ้นและมองที่ Chen Fei อย่างสงสัย

“อาจมีสิ่งชั่วร้ายอยู่ใกล้ๆ เราควรแจ้งให้ลุงเฉียนทราบไหม?” “ความชั่วร้าย?” Guo Linshan ลุกขึ้นยืนด้วยความประหลาดใจ

เฉินเฟยพยักหน้าและยื่นแขนออกเผยให้เห็นรอยดำจางๆ

“นั่นเป็นเนื้อตายเน่าหรือเปล่า?” กัว หลินชาน รับรู้และเข้าใจสถานการณ์ในที่สุด

“ใช่แล้ว ฉันถูกสัตว์ร้ายทำเครื่องหมายไว้ ต่อมาฉันค้นพบว่าพิษเนื้อตายเน่านี้มีความไวต่อออร่าที่ผิดปกติมาก ดังนั้นฉันจึงทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายของฉัน” เฉินเฟยอธิบายสั้น ๆ

“น้องชาย คุณโชคดีมาก สิ่งชั่วร้ายนั้นไม่ได้มุ่งเป้าไปที่คุณ?” กัว หลินซาน ถามอย่างสงสัย

“ไม่ สัตว์ประหลาดตัวนั้นมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่า” เฉินเฟยส่ายหัว คิดถึงเทศมณฑลผิงหยิน

เมื่อสังเกตการแสดงออกของเฉินเฟย กัว หลินชานก็อดที่จะถามคำถามเพิ่มเติม หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขากล่าวว่า “เนื่องจากเนื้อตายเน่าของคุณกำลังมีปฏิกิริยา จึงต้องมีบางสิ่งที่ชั่วร้ายอยู่ใกล้ๆ แต่พวกมันไม่ควรมีพลัง เพื่อความปลอดภัยของการตั้งแคมป์ เราจะตรวจสอบ หากอันตรายมากเกินไปเราจะถอยกลับ”

ขณะที่กัว หลินซานพูด เขาก็หยิบเทียนสีแดงออกมาจากถุงที่อยู่ข้างหลังเขาและเสริมว่า “ด้วยสิ่งนี้ แม้ว่าเราจะเผชิญกับสิ่งชั่วร้าย เราก็สามารถอดทนได้สักพักหนึ่ง”

“พี่ชาย ฉันก็มีวิธีของฉันเหมือนกัน” เฉินเฟยมองเทียนสีแดงและหยิบเทียนออกมาจากแขนเสื้อของเขา

“ฮ่าฮ่า ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว” กัว หลินซานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

เฉินเฟยพยักหน้า และทั้งคู่ก็เริ่มค้นหาตามความรุนแรงของปฏิกิริยาของเนื้อตายเน่า

การตอบสนองของเนื้อตายเน่านั้นอ่อนแอจริงๆ เมื่อเทียบกับความชั่วร้ายที่เฉินเฟยเคยเผชิญมาก่อนหน้านี้ มันเบากว่ามาก นี่คือสาเหตุที่เฉินเฟยตกลงที่จะเริ่มสอบสวน

พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง สลับกันระหว่างเดินและหยุด ความชั่วร้ายก็ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวเช่นกัน ไม่นานนักพวกเขาก็เดินทางเป็นระยะทางเกือบสิบไมล์

“ไม่จำเป็นต้องติดตามต่อไป สิ่งชั่วร้ายนั้นกำลังผ่านไปหรือมีคนควบคุมมันอยู่ นอกจากนี้ ในระยะนี้ มันจะเป็นเรื่องท้าทายสำหรับพวกเขาที่จะคุกคามค่ายของเรา” กัว หลินชาน หยุด ไม่จำเป็นต้องฆ่าคนชั่วร้าย ตราบใดที่มันไม่เป็นอันตรายต่อพวกเขา ก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงใดๆ

เฉินเฟยพยักหน้า กำลังจะพูดเมื่อเขาหยุดกะทันหัน หูของเขากระตุกเมื่อมีเสียงแผ่วเบาดังมาถึงหูของเขาจากระยะไกล

เฉินเฟยหันไปหากัว หลินชาน ซึ่งได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจนเช่นกัน

“ศิษย์พี่ นั่นเป็นการตั้งแคมป์ชั่วคราวของบางนิกายหรือเปล่า?”

“ไม่ มันอยู่ในพื้นที่ร่มรื่นทางโน้น” คราวนี้ไม่มีสถานที่ปลูกสมุนไพรหรือนิกายประจำการอยู่ที่นั่น” กัว หลินซาน ส่ายหัว

“อาจจะเป็นนิกาย Divine Flame?” เฉินเฟยแนะนำทันที

ดวงตาของกัว หลินซานเป็นประกาย นั่นมีความเป็นไปได้สูง อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาต้องการการยืนยัน พวกเขาจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม

“น้องชาย ระดับพลังยุทธ์ของคุณยังไม่เพียงพอ กลับไปหาลุงเฉียนนักรบ” กัว หลินซานมองไปในระยะไกลและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม

“ผู้อาวุโส Guo คุณต้องการให้ใครสักคนไปตรวจสอบหรือไม่? มันอันตรายเกินไป!” เฉินเฟยอดไม่ได้ที่จะแสดงความห่วงใย

“ไม่เป็นไร. ฉันจะสังเกตจากระยะไกลโดยไม่ต้องเสี่ยงใดๆ เราต้องเข้าใจสถานการณ์ มิฉะนั้น มันจะอันตรายมากยิ่งขึ้นเมื่อลุงเฉียนและคนอื่น ๆ มาถึง” กัว หลินซานให้ความมั่นใจกับเขาด้วยรอยยิ้ม

เฉินเฟยเปิดปากเพื่อประท้วง แต่ในที่สุดก็พยักหน้า ถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมที่สุด

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะไม่เสียเวลา เฉินเฟยจึงรีบวิ่งกลับไปในทิศทางที่พวกเขามา ยิ่งพวกเขากลับมาและแจ้งให้คนอื่นๆ ทราบเร็วเท่าไร Guo Linshan ก็จะยิ่งตกอยู่ในอันตรายน้อยลงเท่านั้น

เท้าของเฉินเฟยปลิวไปราวกับสายลม อย่างไรก็ตาม หลังจากวิ่งไปสองสามไมล์ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เนื้อตายเน่าที่อยู่เฉยๆเริ่มแสดงกิจกรรมอีกครั้ง มีสัตว์ร้ายอีกตัวอยู่ใกล้ๆ

นอกจากนี้ ความเข้มข้นของกิจกรรมของเครื่องหมายยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย สิ่งมีชีวิตกำลังมุ่งหน้าตรงไปยังตำแหน่งของเฉินเฟย